ตอนที่ 2 การวางโครงสร้างและวางระบบโรงแรม
สำหรับใครที่กำลังคิดกำลังศึกษาเรื่องการเริ่มต้น ธุรกิจโรงแรม และการทำโรงแรมนั้น เราได้รวบรวมข้อเสนอแนะ เนื้อหา และเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของโรงแรม รีสอร์ท ตั้งแต่เริ่มต้นวางแผนไปจนกระทั่งธุรกิจเลย
ใน ตอนที่ 2 นี้ เราจะพูดถึงการวางโครงสร้างและวางระบบโรงแรม รีสอร์ท
การวางโครงสร้างและวางระบบโรงแรม รีสอร์ท
1. การถมดิน
ก่อนอื่น การสร้างโรงแรมหรือรีสอร์ทต้องเริ่มจากฐานที่ดีก่อน การถมดินนั้นควรถมเท่าไหร่จึงจะดี คำตอบคือควรให้สูงกว่าระดับถนนอย่างน้อย 50 เซ็นติเมตร แต่หากถนนเป็นดินลูกรังคุณต้องเผื่อเอาไว้ให้สูงกว่านั้น เพราะต้องเผื่อความสูงของถนนเมื่อราดยางด้วย นอกจากนี้ยังควรเผื่อไว้สำหรับกรณีดินยุบด้วย ดังนั้นควรถมให้สูงกว่าที่คุณตั้งไว้ เช่น หากต้องการให้สูง 50 เซ็นติเมตร คุณต้องถมเผื่ออีก 15-20 เซ็นติเมตร และควรทิ้งไว้ 4-5 เดือน เผื่อให้ดินอยู่ตัว เพราะหากถมแล้วสร้างทันที อาจเกิดกรณีดินยุบแล้วทำให้โครงสร้างร้าวได้ เพราะฉะนั้นจึงควรใส่ใจเรื่องการถมดินและควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
2. ทิศทางแดดและลม
พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก โค้งไปทางทิศใต้ ก่อนที่จะจบในทิศตะวันตก การวางตำแหน่งห้องพักก็สำคัญ หากคุณวางตำแหน่งห้องพักไว้ที่ทิศใต้หรือทิศตะวันตก จะทำให้ห้องได้รับความร้อนตั้งแต่หลังเที่ยงจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน แต่ในทางกลับกัน หากจากหน้าต่างห้องพักที่อยู่ด้านทิศตะวันตกมีวิวที่สวยงาม แขกที่มาพักก็อาจจะมีวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยก็เป็นได้ ปกติทิศที่หลายคนนิยมกัน คือทิศเหนือ รองลงมาคือทิศตะวันออก เพราะจะได้รับผลจากความร้อนเพียงช่วงเวลา 10 โมงถึงเที่ยงเท่านั้น ห้องที่อยู่ตำแหน่งนี้จะช่วยประหยัดไฟฟ้าได้อีกด้วย
ทิศทางลมก็เช่นกัน ควรศึกษาว่าปกติแล้วโรงแรมคุณมีทิศทางลมจากทางไหนไปทางไหน การสร้างประตูหน้าต่างควรอิงจากทิศทางลมด้วย เพราะจะช่วยให้ห้องไม่ร้อน ระบายอากาศได้ดี ช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย
3. ถังเก็บน้ำ ระบบไฟฉุกเฉิน
หากคุณไม่อยากเจอเหตุการน้ำประปาไม่ไหล ไฟดับบ่อย ทำให้แขกที่เข้ามาพักไม่มีน้ำหรือไฟฟ้าใช้ในขณะที่มาพักโรงแรมของคุณและเกิดความรำคาญ ไม่สะดวกสบาย การมีถังเก็บน้ำและติดตั้งระบบไฟฟ้าสำรองเอาไว้จึงเป็นความคิดที่ดีและเป็นสิ่งจำเป็นอีกอย่างที่จะขาดไม่ได้เลย
4. ทางเข้าโรงแรม พื้นที่ต้อนรับ
ส่วนของทางเข้าโรงแรม รีสอร์ท พื้นที่ต้อนรับหรือล็อบบี้ เป็นอีกส่วนที่ควรออกแบบให้มีความสวยงาม เพราะเป็นที่แรกที่แขกจะต้องเดินเข้ามาเห็นและสามารถสร้างความประทับใจได้ ทางเข้าโรงแรมควรมีป้ายชื่อโรงแรมที่ชัดเจน สามารถมองเห็นง่ายเวลาขับรถมา พร้อมทั้งมีป้ายระบุทางเข้าทางออก
ในส่วนของพื้นที่ต้อนรับ การใช้กระจกใสก็อาจเป็นความคิดที่ดี เพราะเข้ามาแล้วจะดูโล่ง โปร่งและกว้างขวาง ให้ความรู้สึกสบายน่าเข้าพัก หากมีพื้นที่เพียงพอ ก็ควรมีโซฟาและเก้าอี้พร้อมหมอนอิงสวยๆ มาตั้งไว้ เพื่อให้แขกสามารถมานั่งเล่นได้
การคำนึงถึงกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้พิการที่ต้องใช้วิลแชร์ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้โรงแรมของคุณได้แต้มบวก คุณอาจจะสร้างทางลาดสำหรับรถเข็นไว้ข้างๆ บันไดทางขึ้นลงที่ไม่สูงมาก และมีลิฟท์ไว้ให้บริการ มีห้องน้ำที่ออกแบบมาสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้พิการ สิ่งเหล่านี้คุณสามารถนำไปโฆษณาเพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มนี้ได้ด้วย
5. การออกแบบภายในห้องพัก
เวลาแขกจะเลือกเข้าพักในโรงแรมหรือรีสอร์ทไหนก็มักจะดูจากห้องพักเป็นหลัก ห้องพักจึงควรออกแบบให้ดูสวยงาม น่าอยู่ และมีพื้นที่พอเหมาะ อากาศถ่ายเทดี
ตอนออกแบบห้อง ควรคำนึงถึงตำแหน่งของประตู ของหน้าต่าง และเตียง เช่น ควรวางเตียงให้ห่างจากประตูออกมาหน่อย เพื่อป้องกันการได้รับผลกระทบจากทิศทางลมที่มาจากการเปิดปิดประตู ไม่ควรวางเตียงติดกับประตูห้องน้ำมากเกินไป เพื่อป้องกันความชื้นจากห้องน้ำ ควรวางเตียงหันหัวไปทางทิศเหนือหรือทิศตะวันออก
สีของผนังห้องและการเล่นสีภายในห้องพักควรคิดและออกแบบมาแล้วเป็นอย่างดี ปกติการทาสีผนังห้องพักเป็นสีขาวหรือสีครีม น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะจะเข้ากับผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง และเข้ากับสิ่งตกแต่งอื่นๆ ได้ง่าย ทั้งนี้การลงทุนใช้สีกันน้ำที่มีคุณภาพหน่อยเป็นความคิดที่ดีเพราะเวลาผนังห้องเปื้อน จะทำความสะอาดได้ง่าย ห้องพักจะดูสวยและใหม่เป็นเวลานาน
ควรคำนึงถึงตำแหน่งการวางเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องด้วย ควรเหลือพื้นที่ไว้สำหรับเดินได้อย่างสะดวกสบาย อย่าลืมติดตั้งปลั๊กไฟให้เพียงพอสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าและสำหรับการชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือของแขก ทั้งนี้ปลั๊กไฟควรอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานสะดวกด้วย เช่นที่หัวนอนควรมีปลั๊กไฟอย่างน้อย 1-2 ตำแหน่ง และตรงตำแหน่งใกล้ๆ โทรทัศน์หรือโต๊ะทำงานก็ควรมีปลั๊กไฟเพื่อที่จะได้ใช้งานสะดวก ข้างๆ เตียงควรมีโต๊ะเล็กๆ เพื่อให้แขกได้สามารถวางมือถือหรือของใช้จำเป็นได้
ห้องน้ำควรมีที่ระบายความชื่น ควรแบ่งส่วนที่เปียกน้ำได้ (ตรงบริเวณที่อาบน้ำ) และส่วนแห้ง (บริเวณอ่างล้างหน้าและโถส้วม) อย่างชัดเจน และควรมีที่กันลื่นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดได้ ติดตั้งที่วางสบู่ ยาสระผม และมีที่แขวนผ้าขนหนูเพื่ออำนวยความสะดวกให้แขก
นอกจากนี้การมีสิ่งตกแต่งภายในห้องพัก เช่น รูปภาพติดผนังสวยๆ โคมไฟสวยๆ ผ้าปูเตียงที่มีสีสัน การพับผ้าขนหนูเป็นรูปทรงสวยๆ ก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้ห้องพักของคุณได้เป็นอย่างมาก เวลาถ่ายภาพลงโฆษณา ห้องพักของคุณก็จะดูสะดุดตาและโดดเด่นมากขึ้น
6. สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับแขก
สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับแขกที่ควรคำนึงถึงมีหลายอย่างมาก เช่น ควรมีที่จอดรถอย่างเพียงพอ ถ้าโรงแรมคุณมีหลายชั้น ควรมีลิฟท์เพื่อไม่ให้แขกต้องแบกสัมภาระขึ้นลงบันได ควรมีห้องน้ำตรงบริเวณพื้นที่ต้อนรับหรือใกล้ๆ ห้องอาหาร เพื่อให้แขกที่มารับประทานอาหาร หรือรอเข้าพักได้ใช้สะดวก ฯลฯ
ในห้องพักควรมี สบู่ ยาสระผม ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดเท้า ถังขยะ กระดาษชำระ ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น แอร์ ทีวี ตู้เสื้อผ้า ไม้แขวนเสื้อ ถังขยะ ที่วางของและกระเป๋า แก้วน้ำ น้ำเปล่า ชุดเครื่องดื่ม
อาจมีตู้นิรภัยดิจิตอลส่วนตัวสำหรับแขกที่ต้องการพักระยะยาวได้เก็บสิ่งของมีค้าอย่างปลอดภัย ไร้กังวล สำหรับห้องพักที่เน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นเซลล์ อาจจะมีโต๊ะทำงานและเก้าอี้ ตรงพื้นที่ส่วนกลาง หรือใกล้ๆ lobby อาจจะจัดมุมชา กาแฟ โกโก้ พร้อมขนม ก็สามารถสร้างความประทับใจให้แขกได้ หรือจะมีห้องอาหารไว้บริการอาหารเช้า อาหารกลางวันและอาหารเย็นก็อำนวยความสะดวกได้ดี นอกจากนั้นการมีกล้องวงจรปิดและระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น
7. อินเตอร์เน็ต
ทุกวันนี้ไม่มีใครไม่ใช้มือถือ อินเตอร์เน็ตแบบไร้สายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คุณควรติดตั้งระบบ WIFI ให้ลูกค้าสามารถใช้งานและเข้าถึงได้ทั่วพื้นที่ในโรงแรม ความแรงของ WIFI ก็เป็นสิ่งสำคัญ หากมี WiFi แต่ใช้ไม่ได้จะยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดใจให้แก่ลูกค้าได้ เมื่อมี WiFi แล้วก็อย่างลืมติดตั้งรหัสผ่าน เพื่อให้มีแต่เฉพาะลูกค้าของคุณที่จะสามารถเข้าใช้งาน WiFi ในโรงแรมของคุณได้ และอย่าลืมเขียนรหัสติดไว้ในห้องพัก เพื่อให้แขกสามารถเห็นและเข้าใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องคอยถามพนักงาน
6. ระบบอำนวยความสะดวกสำหรับเจ้าของโรงแรม รีสอร์ท
นอกจากคำนึงถึงลูกค้าแล้ว ควรคำนึงถึงตัวคุณเองผู้ที่เป็นเจ้าของโรงแรมอีกด้วย การทำธุรกิจควรมีกำไร การลดต้นทุนก็ช่วยเพิ่มกำไรได้เช่นกัน ดังนั้นในห้องพักควรมีระบบควบคุมไฟฟ้า หรือติดตั้ง Energy Switch (คีย์แท็ก) เพื่อประหยัดไฟ และเพื่อการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ควรติดตั้งระบบโรงแรม หรือติดตั้ง HBox ไปพร้อมกัน HBox คือกล่อง IOT (Internet of Things) ที่จะช่วยให้คุณมอนิเตอร์ห้องพักได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และป้องกันการทุจริตจากพนักงานโรงแรม ด้วยการติดตั้งที่ง่าย สามารถใช้งานได้จากมือถือหรือสมาร์ทโฟนจากทุกที่ ทำให้คุณรู้ทุกความเคลื่อนไหวของโรงแรมหรือรีสอร์ทของคุณ
ระบบโรงแรม ระบบป้องกันการทุจริต HBox
ระบบโรงแรมดูออนไลน์ ย้อนหลังได้ทางมือถือ ตรวจสอบการใช้งานห้องพักได้ตลอด 24 ชั่วโมง
