ช่วงฤดูฝนถือเป็นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว หรือ ช่วงฤดูที่มีคนออกท่องเที่ยวน้อย หรือที่เราเรียกกันว่า Low Season ในช่วงนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจะน้อยลง ส่งผลให้รายได้ของโรงแรม รีสอร์ท มักลดน้อยลงหรือชะลอตัวลงไปด้วย แต่ถ้าหากคุณรู้และนำกลยุทธ์ต่างๆ ต่อไปนี้ไปปรับใช้ คุณอาจพลิกเกมทำให้ช่วง Low Season กลายเป็นช่วงที่รายได้ดีขึ้นมา และเตรียมพร้อมสำหรับช่วง High Season ที่จะปังสุดๆ
อันดับแรกที่คุณจะต้องทำคือ การคาดการณ์และกำหนดให้ชัดว่า ช่วงเดือนไหนถึงเดือนที่นักท่องเที่ยวมักจะมาเข้าพักที่โรงแรมของคุณน้อย ขั้นตอนนี้สำคัญเนื่องจากว่า คุณจะได้เห็นภาพรวมว่าในช่วงไหนคุณจะต้องกระตุ้นการเข้าพักโดยการจัดโปรโมชั่นที่น่าดึงดูดต่างๆ และโปรโมชั่นนั้นๆ ควiจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่
นอกจากนั้นแล้ว การเห็นภาพรวมยังช่วยให้คุณเตรียมการจัดการทุกอย่างในโรงแรมของคุณได้ดียิ่งขึ้น เช่น หากคุณมีแผนจะซ่อมแซมปรับปรุงโรงแรม หรือเพิ่มจำนวนห้องพัก คุณก็จะทราบว่า ควรเริ่มดำเนินการเมื่อไหร่ และต้องเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ เพื่อกระทบลูกค้าและกระทบรายได้ของคุณให้น้อยที่สุด
อีกทั้งคุณจะสามารถวางแผนการซื้อสิ่งของสำหรับแขกที่มาพัก เช่น ชา กาแฟ น้ำดื่ม อาหาร กระดาษชำระ ฯลฯ ได้ถูก โดยจะทราบว่า ควรเพิ่มหรือลดปริมาณในช่วงเดือนไหนบ้าง และคุณยังสามารถบริหารควบคุมการทำงานในแต่ละแผนกได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย เช่น วางแผนว่า ในช่วงเดือนไหนจะต้องเพิ่มหรือลดพนักงานต้อนรับ พนักงานทำความสะอาด ยามเฝ้าโรงแรม ฯลฯ
การคาดการณ์ที่แม่นยำและการวางแผนที่ชาญฉลาดเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาและเพิ่มรายได้จากธุรกิจโรงแรมของคุณ และยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายของคุณได้อีกด้วย
ปัจจุบันในกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่มีเทรนด์การมาพักโรงแรมในลักษณะของ Staycation และ Sleep Tourism เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยนักท่องเที่ยวทั้ง 2 ลักษณะนี้จะนิยมมาพักโรงแรมในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว หรือ Low Season นั้นเอง เนื่องจากต้องการความสงบ หลีกเลี่ยงความพลุกพล่าน เพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไม่ได้เน้นการไปชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่จะเน้นการพักผ่อน ชาร์จพลังให้กับตนเอง เปลี่ยนที่นอน เปลี่ยนบรรยากาศ หากจะทำกิจกรรมก็จะมองหากิจกรรมภายในโรงแรมที่พัก
เทนรด์นี้ถือเป็นโอกาสอันดีเยี่ยมสำหรับเจ้าของโรงแรม หากสามารถดึงกลุ่มลูกค้านี้ให้เลือกโรงแรมของตนสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนได้ ก็จะสามารถเพิ่มรายได้ในช่วง Low Season เป็นอย่างมาก
สิ่งที่ลูกค้ากลุ่ม Staycation และ Sleep Tourism มักจะมองหาคือ โรงแรมที่เงียบสงบ มีบรรยากาศชวนให้ผ่อนคลาย รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ห้องพักต้องสะอาดและควรมีขนาดห้องที่พอดี สามารถนอนเล่นพักผ่อนได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด ควรใช้ชุดเครื่องนอนที่มีคุณภาพเพื่อผิวสัมผัสที่นุ่มสบายเวลานอน และควรมีอุปกรณ์ ของใช้ที่จำเป็น เช่น สบู่ ยาสระผม ไดร์เป่าผม น้ำดื่ม มินิบาร์ อินเตอร์เน็ตไวไฟ ฯลฯ อย่างครบครัน
นอกจากนั้นแล้วควรมีบริการอาหารเช้า มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือมีบริการอาหารตามสั่ง พร้อมเครื่องดื่มต่างๆ ในโรงแรม เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายที่สุด ไม่จำเป็นต้องออกไปนอกโรงแรมเพื่อหาซื้ออาหารหรือเครื่องดื่ม อีกทั้งควรคำนึงถึงกิจกรรมต่างๆ ในโรงแรมที่จะสามารถเสนอให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ได้ เช่น บริการนวดแผนไทย นวดผ่อนคลาย การทำสปา เครื่องเล่นสันทนาการ เช่น โต๊ะฟุตบอลแบบมือหมุน เกมกล่อง ฯลฯ
หากเจ้าของโรงแรมสามารถปรับโรงแรมของตนให้พร้อมต้อนรับและดึงลูกค้ากลุ่ม Staycation และ Sleep Tourism มาพักได้ ก็จะสามารถสร้างรายได้ในช่วง Low Season ได้ไม่ยาก ทั้งนี้เมื่อปรับโรงแรมให้พร้อมแล้ว สิ่งสำคัญคือ ต้องมีการประชาสัมพันธ์ สื่อสาร ทำการตลาดให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย ยิ่งถ้ามีการจัดโปรโมชั่นหรือแพ็คเกจพิเศษต่างๆ จะยิ่งช่วยกระตุ้นความน่าสนใจของโรงแรมของคุณได้อีกด้วย
ช่วง Low Season เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการพัฒนาปรับปรุงโรงแรม หรือสำหรับงานซ่อมแซมทุกประเภทที่ต้องใช้เวลาสักระยะ เพราะเป็นช่วงเวลาที่กระทบการมาพักผ่อนของแขกที่มาพักน้อยที่สุด
อะไรก็ตามที่คุณเคยคิดวางแผนจะทำเกี่ยวกับโรงแรมของคุณเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น วางระบบโรงแรมใหม่ ติดตั้งระบบตรวจสอบการเปิดใช้ห้องพักเพื่อป้องกันรายได้รั่วไหล ติดตั้งระบบคีย์แท็กประหยัดไฟ กระจายความแรงของอินเตอร์เน็ต WIFI หรือปรับปรุงเพื่อความสวยงาม เช่น ทาสีผนังใหม่ ปรับปรุงห้องน้ำ เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะลงมือทำสิ่งเหล่านี้
ระบบโรงแรม H-Box ของเรา มีระบบสำหรับตรวจจับการทุจริต ป้องกันการแอบเปิดห้องพัก และยังมีระบบเช็คอินเช็คเอาท์อีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถดูรายได้ออนไลน์ได้เลย ระบบโรงแรม
อีกทั้งยังเป็นเวลาที่เหมาะแก่การฝึกอบรมพนักงาน คุณสามารถจัดฝึกอบรมเกี่ยวกับการต้อนรับ การสร้างความประทับใจ การจองห้องพัก หรือการรับมือแก้ปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขี้น ให้กับพนักงานแผนกต้อนรับ จัดการอบรมเกี่ยวกับการขายและต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้กับพนักงานในร้านอาหาร และฝึกอบรมการดูแลทำความสะอาด และการดูแลความปลอดภัยให้กับแม่บ้านและยาม สำหรับสิ่งนี้ คุณควรนำรีวิวและคอมเม้นต์ต่างๆ ของแขกที่เคยมาพักมาใช้ในการวิเคราะห์ ว่าควรปรับปรุงด้านใดบ้าง
นอกจากนั้น ช่วง Low Season ยังเป็นช่วงที่เหมาะอย่างมากในการทำความสะอาดโรงแรมครั้งใหญ่ รวมถึงเหมาะแก่การอัพเดทเว็บไซต์โรงแรม อัพเดทช่องทางโซเชียลมีเดียของโรงแรมทั้งหมด และรวบรวมคำติชมจากแขกและพนักงานเพื่อนำมาปรับปรุงอีกด้วย
โดยปกติแล้วโรงแรมอาจมีกลุ่มลูกค้าเฉพาะเจาะจงอยู่แล้ว เช่น บางโรงแรมจะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นส่วนมาก บางโรงแรมมักจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้ามาพัก ช่วง Low season ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการขยายกลุ่มเป้าหมายลูกค้าของคุณ และสร้างรายได้จากกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ
วิธีการสร้างดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ให้เข้ามาพักที่โรงแรมของคุณอาจทำได้โดยการออกโปรโมชั่นพิเศษสำหรับเฉพาะกลุ่ม เช่น ถ้าหากโรงแรมของคุณมักจะมีชาวต่างชาติเข้ามาพักเสียส่วนใหญ่ คุณก็อาจจะออกโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะสำหรับผู้มาพักชาวไทย หรือหากช่วง Low Season ไม่ค่อยมีคนมาเที่ยว คุณก็อาจจะออกโปรโมชั่นพิเศษสำหรับเซลล์ที่ต้องมาติดต่องาน หรือโปรโมชั่นสำหรับบริษัทที่ต้องการจัดกิจกรรม outing ให้พนักงาน หรือจัดงานสัมมนา หรืองานเลี้ยงฉลองอื่นๆ อย่ากำหนดช่วงเวลาสิ้นสุดของโปรโมชั่นพิเศษเหล่านั้นด้วย เมื่อลูกค้ามาพบเจอโปรโมชั่นแบบนี้จะรู้สึกว่า นี่เป็นโอกาสที่ไม่ควรพลาดเลย
นอกเหนือไปจากตลาดกลุ่มลูกค้าที่มาพักโรงแรมเพื่อการท่องเที่ยว หรือการพักผ่อน หรือเพื่อธุรกิจแบบดั้งเดิมแล้ว ยังสามารถแบ่งและกำหนดกลุ่มลูกค้าโรงแรมเป็นประเภทอื่นๆ ได้อีก ดังต่อไปนี้:
โรงแรมของคุณสามารถเพิ่มรายได้ในช่วง Low Season ได้ด้วยการโฆษณา ทำให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มตลาดลูกค้าต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้นด้วยกลยุทธ์หลายประการ ดังต่อไปนี้:
คุณอาจร่วมมือกับร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านสปา ร้านนวด หรือที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่น เพื่อนำเสนอแพ็คเกจหรือบริการที่น่าสนใจสำหรับลูกค้าโรงแรมของคุณ แพ็คเกจเหล่านี้จะเสริมธุรกิจของคุณและทำให้การมาพักโรงแรมของคุณมีความโดดเด่นแตกต่างจากการไปพักที่อื่นๆ
สำหรับลูกค้าใหม่ที่มีโอกาสจะมาเข้าพักในโรงแรมของคุณ คุณควรนำเสนอกิจกรรมหรือแพ็คเกจ โปรโมชั่นต่างๆ ผ่านบล็อกโพสต์และโซเชียลมีเดียของคุณ ส่วนลูกค้าที่เคยมาพักโรงแรมของคุณแล้ว คุณควรสื่อสารแจ้งโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ กับลูกค้าเหล่านั้นโดยตรง โดยอาจจะใช้ช่องทางที่ลูกค้าเคยติดต่อจองห้องกับคุณมาแล้ว เช่น ทาง LINE, Messenger, WhatsApp หรืออีเมลเพื่อเชิญชวนให้มาพักโรงแรมของคุณอีก
บัตรสมาชิกโรงแรม รีสอร์ท หรือบัตรสะสมแต้มจำนวนการมาเข้าพักจะช่วยส่งเสริมให้ลูกค้าอยากกลับมาพักซ้ำที่โรงแรมของคุณอีก หรือคุณอาจให้รางวัลกับลูกค้าที่เลือกมาพักในโรงแรมของคุณโดยการมอบของขวัญต้อนรับ ส่วนลดพิเศษ การอัพเกรดห้องพัก หรือจัดกิจกรรมการจับฉลากรางวัล หรือเสิร์ฟเครื่องดื่มฟรี (Welcome Drink) หรือกาแฟฟรีเมื่อลูกค้ามาเข้าพักในโรงแรมของคุณในครั้งนี้ หรือให้เป็นคูปองสำหรับการมาพักในในครั้งถัดไปก็ได้ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่าจะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่มาพัก ทำให้พวกเขาจดจำโรงแรมของคุณในทางที่ดี และอยากกลับมาพักอีก
การลดราคาห้องพักจะมีผลกับลูกค้าที่สนใจในเรื่องของราคาเป็นหลัก การลดราคาห้องพักเป็นวิธีที่ง่ายและให้ผลเร็วในการดึงดูดลูกค้ากลุ่มให้ตัดสินใจมาเข้าพักในโรงแรมของคุณ อย่างไรก็ตาม การตั้งราคาลดพิเศษควรคำนึงถึงภาพลักษณ์และชื่อเสียงของโรงแรมของคุณด้วย เช่น ถ้าโรงแรมของคุณมีชื่อเสียงในทางที่ดีมากๆ เป็นโรงแรมที่มีมาตรฐานสูง ก็ไม่ควรลดราคาให้ต่ำเกินไปจนทำลายภาพลักษณ์ของโรงแรม แต่ควรเป็นราคาที่เหมาะสมกับช่วง Low Season และหันไปเน้นที่บริการและคุณภาพของที่พัก รวมถึงประสบการณ์การมาเข้าพักที่ดีของแขก ควรคำนึงว่า ถึงแม้การลดราคาจะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่การให้ส่วนลดอาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องเสมอไป
การปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ในการเอาชนะความท้าทายของจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ที่ลดลงในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว หากคุณสามารถปรับกลยุทธ์ โฆษณาประชาสัมพันธ์ และสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณ และให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้ ช่วง Low Season ก็จะยังคงเป็นช่วงที่มีโอกาสดีๆ ในการสร้างรายได้จากธุรกิจโรงแรมเข้ามาอยู่เรื่อยๆ
โรงแรมต่างๆ มักยอมแพ้ในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว และยอมรับสภาพว่าธุรกิจในช่วงดังกล่าวจะซบลงอย่างมาก แต่ด้วยการวางแผนเชิงรุกนี้ คุณสามารถเพิ่มความสำเร็จของคุณให้สูงขึ้นในช่วง Low Season ได้
ขอบคุณบทความจาก
https://www.xotels.com/en/revenue-management/how-to-increase-hotel-revenue-in-low-season
และขอบคุณบทความจาก