ตอนที่ 1 เริ่มต้น ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และการวางแผน

สำหรับใครที่กำลังคิดกำลังศึกษาเรื่องการเริ่มต้น ธุรกิจโรงแรม และการทำโรงแรมนั้น เราได้รวบรวมข้อเสนอแนะ เนื้อหา และเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของโรงแรม รีสอร์ท ตั้งแต่เริ่มต้นวางแผนไปจนกระทั่งธุรกิจเลย

ใน ตอนที่ 1 นี้เราจะพูดถึงการวางแผนและสิ่งที่คุณจะต้องคำนึงถึงเมื่อจะเริ่มต้นธุรกิจโรงแรมหรือรีสอร์ท

การวางแผนก่อนเริ่มทำ ธุรกิจโรงแรม

1. การวางแผนสำคัญที่สุด

จงใช้เวลา 80% สำหรับการวางแผน และ 20% เพื่อลงมือทำ สูตรนี้จะทำให้คุณเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุดไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม การวางแผนในที่นี้หมายรวมถึงการหาข้อมูล การติดต่อราชการ เตรียมเอกสาร หาผู้รับเหมาก่อสร้างที่น่าเชื่อถือ วางแผนโรงแรมหรือรีสอร์ท การออกแบบห้องพัก และห้องอื่นๆ เช่น การจัดการดูแลโรงแรมจะทำอย่างไร

หากต้องจ้างพนักงานเฝ้าคุณก็ควรมี ระบบโรงแรม และ ระบบป้องกันทุจริต เอาไว้ โรงแรมหรือรีสอร์ทของคุณจะมีห้องสัมมนาหรือไม่ จะให้บริการอาหารหรืออาหารเช้าไหม และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆ

คือจะต้องวางแผนก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายลูกค้าหลักและแขกที่มาพักของคุณคือใคร เช่น เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยหรือชาวต่างชาติ เป็นคนในท้องถิ่นหรือคนจากจังหวัดอื่น เป็นนักธุรกิจหรือนักท่องเที่ยว ฯลฯ

การระบุกลุ่มเป้าหมายหลักของคุณจะช่วยให้การออกแบบตกแต่งโรงแรม หรือรีสอร์ทกำหนดได้ง่ายขึ้น เช่น ถ้ากลุ่มเป้าหมายหลักของคุณคือนักท่องเที่ยวในวัยหนุ่มสาว การออกแบบตกแต่งควรมีเอกลักษณ์ มีความขี้เล่น น่ารัก

ถ้ากลุ่มเป้าหมายหลักเป็นนักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัว ห้องพักควรจะกว้างขวางพอให้สามารถวางเตียงเสริมได้ และอาจจะออกแบบให้มีสนามเด็กเล่นพร้อมที่นั่งพักสบายๆ ให้คุณพ่อคุณแม่นั่งพักดูลูกๆ เล่นกัน

หรือถ้ากลุ่มเป้าหมายของคุณ คือกลุ่มเซลล์ ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องตกแต่งมาก แต่เน้นความสะดวกสบาย ในห้องควรมีโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้ เป็นต้น

2. ธุรกิจโรงแรม ทำเลคือสิ่งสำคัญ

สิ่งแรกอันดับต้นๆ ที่เราควรพิจารณาในการสร้างโรงแรมก็คือทำเล ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ยังคงเป็นความจริงที่ใช้ได้เสมอมา 

ทำเลที่ตั้งของคุณอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวหรือสถานที่สำคัญๆ หรือไม่ สำหรับเมืองท่องเที่ยงอยู่แล้วก็อาจจะง่ายหน่อย

แต่ก็ยังคงต้องดูว่าทำเลที่ตั้งใกล้สถานที่ท้องเที่ยวแค่ไหน เดินทางไปอย่างไร และใกล้ๆ กับโรงแรม รีสอร์ทของคุณมีร้านอาหาร มีร้านสะดวกซื้อไหม

แต่สำหรับเมืองที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวคุณก็อาจจะต้องกำหนดกลุ่มเป้าลูกค้าให้ดี และหาจุดเด่นบางอย่างเพื่อดึงดูดให้แขกเข้ามาพัก หรือทำเป็นโรงแรมสำหรับกลุ่มเซลล์ขายของ ที่ต้องเดินทางไปทั่วประเทศเลยก็อาจจะเป็นความคิดที่ดี

3. ไฟฟ้า น้ำประปา

นอกจากทำเลที่ดี คุณต้องคำนึงถึง ไฟฟ้าและน้ำประปา ว่าสองสิ่งนี้สามารถเข้าถึงโรงแรมของคุณได้ไหม ถ้าที่ดินราคาไม่สูงและพื้นที่กว้างใหญ่ แต่น้ำประปาและไฟฟ้าเข้าไม่ถึง

คุณก็อาจจะต้องเสียค่าเดินประปาไฟฟ้าเอง เรื่องราคานั้นต้องไปสอบถามที่การประปาและการไฟฟ้าในพื้นที่ หรืออาจขุดน้ำบาดาลใช้ แต่ในระยะยาวอาจมีปัญหาได้

ดังนั้นหากเลือกทำเลที่มีไฟฟ้าและน้ำประปาผ่านอยู่แล้ว ก็จะน่าจะสะดวกกว่าและทุ่นแรงไปได้อย่างมากด้วย

4. คู่แข่ง

อย่าลืมทำการสำรวจว่าในละแวกใกล้เคียงมีโรงแรมหรือรีสอร์ทอื่นๆ ที่เป็นคู่แข่งคุณหรือเปล่า การสร้างโรงแรมในแหล่งที่มีคู่แข่งอยู่แล้วหลายราย ก็อาจจะยากในการที่จะดึงแขกเข้ามาพัก เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นช่วง high season ที่มีนักท่องเที่ยวมามาก

แต่ถ้าคุณอยากให้มีแขกมาพักอยู่เรื่อย ๆ แม้แต่ในช่วง low season คุณก็ควรจะต้องมีมาตรฐานความสะอาด และบริการที่ดีและมีจุดเด่นที่ทำให้แขกที่ชอบเที่ยวนอกช่วงเทศกาลเลือกที่จะมาพักในโรงแรมของคุณ ไม่เช่นนั้นรายได้ในช่วง low season อาจจะสู้คู่แข่งไม่ได้และทำให้เสียโอกาสดีๆ ไป

อย่าลืมเอาตัวเองไปอยู่ในโลกออนไลน์ เช่น สมัคร Google My Business, ปักหมุดรีสอร์ทใน Google Map , ทำเว็บไซต์ หรืออย่างน้อยควรมีเฟสบุ๊คเพจ เผื่อใช้สำหรับการโฆษณาในอนาคต

5. เตรียมเงินทุนเพื่อ ธุรกิจโรงแรม

สิ่งสำคัญอันดับต้นๆ คือคุณมีเงินทุนส่วนตัวหรือไม่ หากมีแล้วก็สบาย แต่ก็ควรวางแผนการลงทุนและใช้จ่ายเป็นอย่างดี กำหนดวงเงินสำหรับค่าใช้จ่ายแต่ละส่วนให้ชัดเจน หากไม่มีเงินทุนก็คงต้องมองเรื่องการขอกู้กับธนาคาร คุณควรเตรียมข้อมูลให้พร้อมก่อนไปขอกู้ คิดคำนวณว่าต้องใช้วงเงินเท่าไหร่ โรงแรมของคุณจะมีกี่ห้อง เป็นระดับกี่ดาว รับเหมาก่อสร้างเท่าไหร่ ที่ดินมีแล้วหรือไม่หรือต้องกู้ซื้อที่ดินด้วย

ธนาคารมีสินเชื่อสำหรับการกู้เพื่อสร้างหอพักหรือโรงแรมโดยเฉพาะ สินเชื่อประเภทนี้จะไม่ได้อยู่ในประเภทการกู้เพื่อที่อยู่อาศัย แต่จะเป็นสินเชื่อประเภทสำหรับผู้ประกอบการ บางธนาคารอาจให้กู้ได้ถึง 100% แต่บางธนาคารอาจให้ได้เพียง 80%

เอกสารที่ใช้คร่าวๆ สำหรับหลายธนาคารก็จะมี อาทิเช่น

  • บัตรประชาชน หรือหนังสือรับรองบริษัท (สำหรับนิติบุคคล)
  • ทะเบียนบ้าน
  • การเงินย้อนหลัง 6 เดือน (หรือแล้วแต่เงื่อนไขแต่ละธนาคาร)
  • โฉนดที่ดินที่เสนอเป็นหลักประกัน (หรือแล้วแต่เงื่อนไขแต่ละธนาคาร)
  • แบบแปลนสิ่งปลูกสร้าง (หรือแล้วแต่เงื่อนไขแต่ละธนาคาร)
  • อื่นๆ

6. วางแผนรูปแบบและคอนเซปต์โรงแรม (เช่น โรงแรมหรู, รีสอร์ท, โฮสเทล)

การกำหนดรูปแบบและคอนเซปต์ของโรงแรมเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างธุรกิจ เพราะจะเป็นตัวกำหนดภาพลักษณ์และเอกลักษณ์ที่จะสื่อสารไปยังลูกค้า หากตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ คอนเซปต์แบบรีสอร์ทก็อาจตอบโจทย์ แต่หากอยู่ใจกลางเมือง โรงแรมหรูหรือโฮสเทลราคาประหยัดสำหรับนักท่องเที่ยวแบ็กแพ็กอาจเหมาะสมกว่า การเลือกคอนเซปต์จึงต้องสัมพันธ์กับทำเล และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างรอบคอบ

เมื่อคอนเซปต์ชัดเจน ผู้ประกอบการสามารถออกแบบห้องพัก พื้นที่ส่วนกลาง และบริการเสริมให้สอดคล้องในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะช่วยสร้างจุดขายที่แตกต่าง ทำให้โรงแรมมีเอกลักษณ์ ไม่เป็นเพียงที่พัก แต่เป็นประสบการณ์ที่ลูกค้าจดจำ และพร้อมกลับมาใช้บริการหรือบอกต่อในอนาคต

7. ออกแบบห้องพัก

ห้องพักเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะแขกมักจะเลือกจองโรงแรมหรือรีสอร์ท โดยดูจากรูปห้องพักเป็นหลัก ห้องพักที่สวย โปร่ง มีเอกลักษณ์โดดเด่น หรือตกแต่งอย่างพิถีพิถัน จะมีส่วนช่วยในเรื่องการตลาดอย่างมาก เพราะแขกที่มาเข้าพักก็จะชอบเก็บภาพถ่ายสวยๆ ไปอวดบนโซเชียล ทำให้โรงแรมหรือรีสอร์ทเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

การออกแบบนั้น คุณสามารถทำได้ 3 แบบ คือ

  • จ้างสถาปนิกและนักออกแบบภายในมืออาชีพ การจ้างนักออกแบบภายในเพื่อออกแบบตกแต่งห้องพักในโรงแรม รีสอร์ท อาจทำให้ต้นทุนของคุณสูงขึ้น แต่ก็สามารถทุ่นแรงและเวลาของคุณได้เยอะ แถมคุณก็จะค่อนข้างมั่นใจได้ว่าจะได้แบบห้องพักที่ตรงกับความต้องการและสวยงาม ทั้งนี้ควรตรวจสอบผลงานเก่าๆ ของนักออกแบบภายในที่คุณจะจ้างก่อน และพูดคุยถึงความต้องการว่าอยากให้ห้องพักออกมาในลักษณะไหนอย่างชัดเจน
  • หาแบบห้องพักตามเว็บไซต์ที่แจกฟรี มีหลายเว็บไซต์ที่ให้บริการดาวน์โหลดแบบห้องพักฟรี ข้อดีคือไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ข้อเสียคือขนาดในแบบที่แสดงกับขนาดพื้นที่ห้องพักของคุณอาจจะไม่เหมาะกัน ทำให้การตกแต่งออกมาไม่เหมือนกับในแบบและต้องปรับเปลี่ยนหรือประยุกต์หลายอย่าง
  • บ้านน็อคดาวน์ เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะสะดวกรวดเร็ว พร้อมทั้งยังเห็นห้องตัวอย่างได้ทันที คุณยังสามารถเลือกราคาที่ต้องการได้ด้วย อย่างไรก็ตาม อย่าลืมตรวจสอบคุณภาพของบ้านน็อคดาวน์ให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านน็อคดาวน์จะมีความคงทนไหม
    ไม่ว่าคุณจะเลือกวิธีไหน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือขนาดพื้นที่จริงของคุณ ว่าเหมาะสมกับแบบที่เลือกหรือไม่

นอกจากนี้ การขออนุญาตเปิดโรงแรมและรีสอร์ทนั้น คุณต้องมีวิศวกรลงชื่อรับรองแบบด้วย และต้องนำเอกสารนั้นไปยื่นเพื่อขออนุญาตกับทางราชการในขั้นตอนต่อไป

8. การขออนุญาตและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ก่อนเปิดดำเนินการธุรกิจโรงแรม ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม การจัดทำผังอาคารให้เป็นไปตามกฎหมายควบคุมอาคาร รวมถึงการตรวจสอบระบบความปลอดภัย เช่น ระบบป้องกันอัคคีภัย ทางหนีไฟ และการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม การดำเนินการอย่างถูกต้องตั้งแต่แรกจะช่วยลดความเสี่ยงทางกฎหมายและสร้างความน่าเชื่อถือแก่ธุรกิจ

นอกจากนี้ ยังมีข้อกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การจ้างงานและสิทธิแรงงาน การเก็บภาษี รวมถึงกฎระเบียบของหน่วยงานท้องถิ่น การศึกษาและทำความเข้าใจข้อกำหนดเหล่านี้อย่างรอบด้าน จะทำให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่น และหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลังจากการละเลยข้อกฎหมาย

อ่านเพิ่มเติม ขั้นตอนการขออนุญาตก่อสร้างโรงแรม รีสอร์ท

9. เริ่มก่อสร้างและควบคุมคุณภาพงาน

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็เริ่มลงมือสร้างเลย คุณจะจ้างผู้รับเหมาก็ได้ หรือจะหาคนงานมาทำก็ได้ แล้วแต่สะดวกเลย

แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกทางไหน ต้องไม่ลืมคอยมาควบคุมการก่อสร้างอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าการก่อสร้างเป็นไปตามแผนที่ตั้งใจไว้

ในขณะก่อสร้างต้องคำนึงถึงการวางระบบสายไฟ ควรคำนึงถึงการติดตั้งระบบควบคุมไฟพร้อมทั้งการติดตั้ง HBox ในห้องพักด้วย เพื่อช่วยให้ประหยัดไฟฟ้า และวางระบบโรงแรม เพื่อการควบคุมมอนิเตอร์การใช้งานห้องพักในโรงแรมของคุณ

10. การสรรหาและฝึกอบรมพนักงาน

การสรรหาพนักงานถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างมาตรฐานการบริการของโรงแรม พนักงานทุกตำแหน่งตั้งแต่แผนกต้อนรับ แม่บ้าน ไปจนถึงฝ่ายครัว ล้วนมีบทบาทในการสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า การคัดเลือกบุคลากรที่เหมาะสม ควรพิจารณาทั้งทักษะ ความสามารถ และทัศนคติที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีคุณภาพ

เมื่อได้บุคลากรที่เหมาะสมแล้ว การฝึกอบรมก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะจะช่วยให้พนักงานเข้าใจมาตรฐานการบริการ การดูแลลูกค้า และวิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างมืออาชีพ โรงแรมที่ลงทุนในการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่อง มักสร้างทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพสูง สร้างความประทับใจแก่ลูกค้า และเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

ระบบสะสมแต้ม

11. การวางระบบจัดการ (ระบบจองห้อง, ระบบบัญชี, ระบบพนักงาน)

การมีระบบจัดการที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจโรงแรมในยุคปัจจุบัน ระบบจองห้องพักออนไลน์ช่วยให้ลูกค้าสามารถเช็กห้องว่างและทำการจองได้สะดวก พร้อมทั้งลดความผิดพลาดในการจัดการห้องพัก ขณะที่ระบบบัญชีช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถควบคุมรายรับรายจ่าย ตรวจสอบต้นทุน และวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งหมดนี้ช่วยให้การบริหารโรงแรมดำเนินไปอย่างเป็นระบบและโปร่งใส

นอกจากนี้ ระบบจัดการพนักงานก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ควรให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการจัดตารางเวร การบันทึกเวลาทำงาน หรือการประเมินผลการทำงาน ซึ่งจะช่วยให้การบริหารทรัพยากรบุคคลมีความเป็นระเบียบ ลดปัญหาความซ้ำซ้อน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของทีมโดยรวม เมื่อทุกระบบถูกวางไว้อย่างรอบคอบ โรงแรมก็จะมีความพร้อมในการให้บริการที่มีคุณภาพและสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

12. การเปิดตัวและสร้างภาพลักษณ์โรงแรม

ช่วงเวลาเปิดตัวโรงแรมถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะสร้างความประทับใจแรกให้กับลูกค้าและสังคม ผู้ประกอบการควรมีแผนการตลาดที่ชัดเจน เช่น การจัดงานเปิดตัว การเชิญสื่อมวลชนหรืออินฟลูเอนเซอร์เข้ามารีวิว รวมถึงการโปรโมตผ่านช่องทางออนไลน์อย่างเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้ลูกค้าอยากเข้ามาสัมผัสประสบการณ์จริงตั้งแต่วันแรก

หลังจากเปิดตัวแล้ว การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีอย่างต่อเนื่องก็เป็นสิ่งสำคัญ โรงแรมควรรักษามาตรฐานการบริการ จัดการรีวิวออนไลน์อย่างใส่ใจ และใช้กลยุทธ์การตลาดที่สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ ภาพลักษณ์ที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ จะทำให้โรงแรมกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในใจลูกค้า และเป็นรากฐานของการเติบโตระยะยาว

ระบบโรงแรมรายวัน

13. การตลาดและช่องทางการขาย (ออนไลน์-ออฟไลน์)

การทำการตลาดสำหรับธุรกิจโรงแรมในปัจจุบันควรผสานทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน ช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์โรงแรม แพลตฟอร์มจองห้องพัก (Booking.com, Agoda, Airbnb) รวมถึงสื่อโซเชียลมีเดีย จะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้รวดเร็วและกว้างขวาง ขณะเดียวกันการทำคอนเทนต์ที่สื่อสารเอกลักษณ์โรงแรมอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยสร้างการรับรู้และดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในด้านออฟไลน์ โรงแรมสามารถสร้างโอกาสทางการตลาดผ่านการร่วมมือกับบริษัททัวร์ การจัดแพ็กเกจท่องเที่ยว หรือการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและงานท่องเที่ยวต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างเครือข่ายและขยายฐานลูกค้าที่อาจไม่คุ้นเคยกับการจองออนไลน์ เมื่อผสานทั้งสองช่องทางอย่างสมดุล จะทำให้โรงแรมมีโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้รอบด้านและสร้างยอดขายที่ยั่งยืน

14. การบริหารหลังเปิดดำเนินการ (บริการลูกค้า, รีวิว, การปรับปรุงต่อเนื่อง)

หลังจากโรงแรมเปิดดำเนินการแล้ว สิ่งสำคัญคือการบริหารจัดการเพื่อรักษามาตรฐานการบริการอย่างสม่ำเสมอ การใส่ใจในประสบการณ์ของลูกค้า ตั้งแต่ขั้นตอนการจอง การเข้าพัก ไปจนถึงการเช็กเอาต์ จะช่วยสร้างความประทับใจและทำให้ลูกค้ารู้สึกอยากกลับมาใช้บริการซ้ำ พนักงานจึงควรได้รับการอบรมให้บริการด้วยความสุภาพ ใส่ใจ และแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

อีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามคือการจัดการรีวิวและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โรงแรมควรติดตามความคิดเห็นของลูกค้าทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ เพื่อนำมาพัฒนาบริการหรือปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก การแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจและความพร้อมในการพัฒนา จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้โรงแรมแตกต่างจากคู่แข่ง และเป็นพื้นฐานของการเติบโตอย่างยั่งยืน

และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือระบบที่ใช้ป้องกันพนักงานหรือแม่บ้านทุจริต เพื่อป้องกันการรั่วไหลของรายได้  ระบบ H-Box ของเราสามารถช่วยคุณเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน

H-Box Pro คีย์การ์ดตัดไฟอัจฉริยะ สั่งงานผ่านมือถือ
ระบบโรงแรม ระบบป้องกันทุจริต

N

มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ

N

แม่บ้านเปิดได้แค่ไฟส่องสว่าง เปิดแอร์ไม่ได้

N

สั่งงานผ่านมือถือได้ทุกที่ ทุกเวลา

N

รองรับ Door Lock ทุกประเภท

N

รองรับกรณีไวไฟล่ม

N

ช่วยลดค่าไฟได้จริง

ระบบโรงแรมดูออนไลน์ ย้อนหลังได้ทางมือถือ ตรวจสอบการใช้งานห้องพักได้ตลอด 24 ชั่วโมง

https://hotel.unsleepbox.com/h-box-pro/



บทความอื่นๆ