การเพิ่มรายได้และผลกำไร ธุรกิจโรงแรม การจัดการโรงแรม และการใช้ โปรแกรมโรงแรม ต้องมีการผสมผสานระหว่างการวางแผนเชิงกลยุทธ์ การวางแผนด้านการตลาด การควบคุมต้นทุน และการมอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้แก่แขกที่มาพัก ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์บางส่วนที่สามารถช่วยเพิ่มรายได้ และผลกำไรของโรงแรมของคุณได้
การรู้จักตลาดของคุณอย่างแท้จริง เป็นสิ่งจำเป็นในการจัดการธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ขั้นแรก ระบุจุดแข็งและจุดอ่อนของโรงแรมของคุณ ตลอดจนโอกาสใหม่ๆ และภัยคุกคามต่อโรงแรมของคุณ ด้วยข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้คุณจะตัดสินใจบริหารจัดการโรงแรม ของคุณได้เป็นอย่างดี คุณจะสามารถระบุได้ว่าลักษณะโปรไฟล์ของแขกที่มาพักในปัจจุบัน ของคุณเป็นอย่างไร และที่สำคัญคือ จะรู้ว่าลักษณะโปรไฟล์ของแขกที่มาพักที่โรงแรมของคุณ ในอนาคตเป็นอย่างไร
ด้วยการระบุตลาดเป้าหมาย การแบ่งส่วน และสร้างโปรไฟล์ลูกค้า คุณจะสามารถระบุความต้องการของแขกในปัจจุบันและในอนาคตของคุณได้ การมีข้อมูลนี้ช่วยให้คุณสามารถติดตามดูแนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อความต้องการของลูกค้าได้
ความรู้ความเข้าใจอย่างครบถ้วนเกี่ยวกับโรงแรมของคุณ จะทำให้คุณสามารถมุ่งเน้นที่การนำเสนอประสบการณ์การเข้าพักโรงแรมที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าของคุณได้ ด้วยเหตุนี้ การติดตามข่าวสารคู่แข่งของคุณอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ วิธีที่ดีในการทำเช่นนี้คือการเปรียบเทียบ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถวิเคราะห์การแข่งขันตามราคา ระดับการบริการ สถานที่ตั้ง และช่องทางการจองโรงแรม ได้
สิ่งนี้จะช่วยให้โรงแรมของคุณสามารถสร้างความแตกต่างด้วยมูลค่า แทนที่จะเป็นด้วยราคา ด้วยวิธีนี้ คุณจะไม่ถูกผลักดันให้เข้าสู่การแข่งขัน “ด้วยราคาที่ถูกที่สุด” ซึ่งจะบีบบังคับคุณให้กำหนดราคาห้องพักที่ต่ำลงไปเรื่อยๆ
ตัวอย่าง เทรนด์ล่าสุดในโรงแรม คือการเสนอพื้นที่ทำงานร่วมกัน หรือ Co-Working Space ซึ่งอาจส่งผลให้รายได้จากร้านอาหารและเครื่องดื่มในโรงแรมของคุณเพิ่มขึ้น รวมถึงแนวโน้มการขยายเวลาเข้าพักที่โรงแรมของคุณอาจนานขึ้นอีกด้วย ด้วยวิธีนี้คุณสามารถสร้างเอกลักษณ์ให้กับโรงแรมของคุณให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดได้ แม้ว่าโรงแรมอื่นๆ จะแข่งขันกันด้วยราคา แต่คุณสามารถเสนอคุณค่าอื่นๆ ให้กับลูกค้าได้ โดยที่ลูกค้าของคุณเต็มใจที่จะจ่ายค่าบริการที่สูงกว่าด้วย
ในการจัดการรายได้ คุณควรจะปรับราคาห้องพักในโรงแรมของคุณให้ตรงกับความต้องการที่มีอยู่ในตลาดเสมอ และควรปรับตามช่วง High Season หรือ Low Season เพื่อที่จะตั้งราคาให้เหมาะสมที่สุดสำหรับห้องพักในโรงแรม ด้วยเหตุนี้ การติดตามอัตราการจองโรงแรมของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญ
สิ่งนี้จะช่วยให้คุณกำหนดราคาห้องพักให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มรายได้ คุณจะได้แน่ใจว่า คุณได้ขายห้องพักที่เหมาะสมให้กับลูกค้าที่เหมาะสมในช่วงเวลาที่เหมาะสมในราคาที่เหมาะสม
ข้อดีอีกอย่างของการทำและใช้รายงานคือ คุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญจากการเปรียบเทียบการจองห้องพักของปีนี้กับปีก่อนและเดือนก่อน ทำบัญชีรายรับ รายจ่าย หมั่นตรวจสอบบัญชีและการใช้จ่าย รวมถึงป้องกันรายได้รั่วไหล
การทราบถึงความต้องการห้องพักในแต่ละช่วงเวลา จะช่วยให้คุณสามารถคำนวณอัตราการเข้าพักในอนาคตได้ การรู้ความต้องการนี้เป็นสิ่งสำคัญ
ในช่วงที่ห้องพักของคุณมีความต้องการสูง เช่น ในช่วงคริสต์มาส จำนวนลูกค้ามีมากเกินกว่าจำนวนห้องพักที่มี
เมื่อทราบว่าอุปสงค์มีมากกว่าอุปทานในช่วงวันที่ระบุ คุณก็สามารถเพิ่มราคา และเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ได้
การฝึกคาดการณ์ความต้องการห้องพัก มีความสำคัญต่อการเพิ่มรายได้ของโรงแรมให้สูงสุด อีกทั้งยังช่วยให้คุณสามารถวางแผนล่วงหน้า และสะท้อนการตัดสินใจด้านราคาของคุณ ในภายหลัง รวมถึงช่วยให้คุณเรียนรู้จากข้อผิดพลาดในอดีต และเพิ่มประสิทธิภาพในอนาคต
เป็นผลให้ความแม่นยำในการคาดการณ์ของคุณดีขึ้นทีละน้อย ช่วยให้คุณตัดสินใจลงมือดำเนินการตามโอกาส และลดความผิดพลาดแบบที่ไม่คาดคิด ด้วยเหตุนี้ การคาดการณ์ความต้องการห้องพักจึงช่วยเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ของโรงแรมของคุณ
โรงแรมทุกแห่งมีความต้องการแตกต่างกันไปในบางช่วงเวลา และฤดูกาลที่มีความต้องการสูง วันหยุดสำคัญๆ งานต่างๆ ในท้องถิ่น และกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในแต่ละปี เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง
เมื่อตั้งใจที่จะเพิ่มประสิทธิภาพรายได้โรงแรมของคุณ คุณต้องแน่ใจว่าได้กำหนดราคาห้องพัก และบริการของคุณให้สอดคล้องกัน เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการที่สูงขึ้นในราคาที่เหมาะสม
รู้วงจรการเข้าพักของแขก และเตรียมรับมือ เช่น High Season เน้นการบริการ เตรียมพร้อมเรื่องพนักงานต้อนรับ และการจัดกะพนักงานและแม่บ้านทำความสะอาด ส่วนในช่วง Low Season ก็เหมาะสำหรับการจัดโปรเสนอส่วนลดพิเศษ หรือข้อเสนออื่นๆ ที่เชิญชวนให้แขกมาเข้าพัก ซึ่งวิธีการเหล่านี้จะสามารถกระตุ้นยอดขายได้
หากคุณกำหนดราคาห้องพักโดยไม่พิจารณาถึงความต้องการที่สูงขึ้นในช่วงเทศกาลวันหยุดต่างๆ ห้องพักในโรงแรมของคุณอาจขายหมดอย่างรวดเร็วแต่ในราคาที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งเป็นการเสียโอกาสในการเพิ่มรายได้อย่างน่าเสียดาย
ส่วนในช่วงฤดูกาลที่อยู่ระหว่างช่วง High Season และ Low Season ก็ยังมีโอกาศในการเพิ่มรายได้เช่นกัน แต่ละอำเภอและจังหวัดมีเทศกาลงานต่างๆ เช่น งานรับปริญญา งานประจำจังหวัด ฯลฯ หากคุณรู้กำหนดการงานต่างๆ ในท้องถิ่น คุณก็สามารถเตรียมพร้อม ลงโฆษณา จัดโปรเรียกแขกมาพักในโรงแรมของคุณได้
ระบบโรงแรมที่ดีจะช่วยคุณเก็บข้อมูลการมาเข้าพักของแขก ทำให้คุณรู้ว่าช่วงไหนมีแขกจำนวนมาก ช่วงไหนมีแขกจำนวนน้อย และควรเตรียมพร้อมอย่างไร
เมื่อทราบว่าช่วงไหนมีความต้องการห้องพักสูง คุณก็สามารถควบคุมระยะเวลาการเข้าพักของแขกได้ ด้วยการเพิ่มข้อเสนอหรือข้อจำกัด เช่น ตั้งจำนวนวันการเข้าพักขั้นต่ำหรือจำนวนวันเข้าพักสูงสุด เพียงแค่นี้คุณก็สามารถมั่นใจได้ว่า โรงแรมของคุณจะไม่ถูกจองเพียงวันเดียวในช่วงเทศกาล แต่จะมีแขกเข้าพักทั้งในวันก่อนวันหยุดหรือหลังวันหยุดสำคัญๆ อีกด้วย
วิธีนี้ช่วยให้คุณสามารถเพิ่มผลกำไรในช่วงเวลาก่อนและหลังวันหยุด เพราะฉะนั้น การควบคุมและการจำกัดการเข้าพักของแขกทำให้คุณสามารถเพิ่มรายได้ในช่วงเวลาที่ต้องการได้
ตามที่ได้แนะนำมาก่อนหน้านี้ การคาดการณ์ความต้องการเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มรายได้ของโรงแรมของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ แต่สิ่งนี้จะไม่ส่งผลใดๆ หากนโยบายการยกเลิกการจองของคุณหละหลวม
อัตราการยกเลิกการจองห้องพักที่สูงทำให้การคาดการณ์ผิดเพี้ยน ซึ่งส่งผลให้กำไรลดลงโดยตรง ทางออกที่ดีที่สุดในการป้องกันการยกเลิกการจองคือ ตั้งนโยบายการยกเลิกการ จองห้อง พักในช่วงเทศกาลวันหยุด และเข้มงวดกับการปฏิบัติตามนโยบายนั้นๆ ในช่วงเทศกาลให้มากขึ้น
คุณสามารถหยุดการอนุญาตให้ยกเลิกการจองห้องพัก หรือเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหาก ลูกค้าต้องการยกเลิกการจองในช่วงเทศกาลวันหยุดได้
OTA (Online Travel Agency) คือผู้ให้บริการด้านการจองที่พักทั้งโรงแรม รีสอร์ท หรือเรียกอีกอย่าง คือ เอเจนท์ออนไลน์หรือคนกลางออนไลน์ที่เป็นหนึ่งในช่องทางการขายห้อง ของโรงแรม
แม้ว่า OTA (Online Travel Agency) จะมีประโยชน์ และช่วยให้แขกของคุณสามารถเปรียบเทียบ และจองโรงแรมได้อย่างง่ายดาย และมีประสิทธิภาพ แต่สำหรับผู้ประกอบการโรงแรมแล้ว คุณต้องแบ่งกำไรที่คุณควรจะได้ไปให้กับพวกเขา
หากคุณอยากรักษากำไรโรงแรมเอาไว้ คุณต้องพยายามให้ลูกค้าจองโดยตรงกับโรงแรมของคุณให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยไม่ผ่าน OTA เพื่อที่คุณจะได้ลดจำนวนเงินที่คุณจะต้องจ่ายให้กับ OTA แต่วิธีนี้ก็ทำให้คุณจะต้องแข่งขัน กับพวกเขา
ขั้นตอนแรกในแผนการตลาดของคุณควรมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพ SEO ของเว็บไซต์โรงแรม และแนะนำวิธีการจองห้องพักกับลูกค้า เช่น มีเบอร์โทรศัพท์ หรือ LINE-ID ให้ติดต่อจองห้องพัก เพื่อกระตุ้นการจองห้องกับโรงแรมโดยตรงให้มากขึ้น
โปรแกรมโรงแรม H-Box ส่งเสริมการจองห้องโดยตรงกับโรงแรม โดยเรามีระบบการจองห้องพักแบบที่ไม่ผ่าน OTA ให้คุณได้ใช้งาน
แม้ว่า OTA จะมีงบประมาณทางการตลาดมากกว่าโรงแรมทั่วๆ ไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณควรยอมแพ้
การติดตามข่าวสารว่า OTA กำลังทำอะไรอยู่ จะทำให้คุณได้รับประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึก เช่น คอยตรวจสอบดูราคาแต่ละช่วงจาก OTA แล้วนำมาปรับกับราคาห้องพักของเรา
คุณสามารถจัดการควบคุมราคาโดยอิงจากช่องทางการจองของ OTA ได้ เนื่องจากข้อมูลประเภทนี้เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของการตลาดของคุณ
อย่าลืมซื้อคีย์เวิร์ดชื่อโรงแรมคุณบน Google Ads หากคุณไม่ทำเช่นนั้น สามเว็บไซต์แรกที่ปรากฏในผลการค้นหาของ Google จะเป็น OTA โดยใช้ประโยชน์จากชื่อแบรนด์ของคุณเป็นคำหลัก โดยที่พวกเขาซื้อคีย์เวิร์ดที่มีชื่อโรงแรมคุณบน Google Ads ไปนั้นเอง
สิ่งสำคัญเกี่ยวกับ SEO คือ เว็บไซต์โรงแรมของคุณจะต้องอยู่ในอันดับแรกเมื่อค้นหาด้วยชื่อโรงแรมของคุณ การแสดงผลเว็บไซต์โรงแรมของคุณต้องรองรับการใช้งานบนมือถือ การใช้งานเว็บไซต์ของคุณต้องง่าย และคุณภาพของระบบการจองทางอินเทอร์เน็ต คือกุญแจสำคัญ
ตัวอย่างเช่น หากแขกพิมพ์ชื่อโรงแรมของคุณใน Google แล้วคลิกไปที่ Booking.com ก่อน จากนั้นจึงกลับมาคลิกที่เว็บไซต์ของคุณ แต่สุดท้ายกลับมาที่ Booking.com เพื่อทำการจอง Google จะจดบันทึกสิ่งนี้และหลังจากนั้น การจัดอันดับของเว็บคุณจะต่ำลงในครั้งถัดไปที่มีผู้ใช้ค้นหาชื่อโรงแรมของคุณ
การเสนอแพ็คเกจเป็นวิธีที่ดีในการกระตุ้นให้แขกเลือกโรงแรมของคุณแทนที่จะเลือกโรงแรมของคู่แข่ง คนส่วนใหญ่มักสนใจส่วนลด ข้อเสนอ และแพ็คเกจต่างๆ และพวกเขาก็จะผิดหวังมากหากพลาดส่วนลดใดๆ
หากเสนอข้อเสนอพิเศษที่เหมาะสมในเวลาที่เหมาะสม ผู้เข้าพักมักจะเลือกโรงแรมของคุณเวลาเปรียบเทียบตัวเลือกต่างๆ หากคุณต้องการใช้แพ็คเกจและข้อเสนออื่นๆ ในแบบที่จะประสบความสำเร็จและสร้างผลกำไร ก็ควรปรับให้เข้ากับฤดูกาลและอัตราการเข้าพักของแขกตามความจำเป็น
คำวิจารณ์และข้อเสนอแนะออนไลน์สามารถสร้าง หรือทำลายชื่อเสียงของโรงแรมของคุณได้ ก่อนที่จะทำการจองโรงแรม ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะอ่านรีวิวของโรงแรมก่อน คุณควรติดตามรีวิวโรงแรมของคุณอยู่เสมอ และคอยปรับปรุง เพราะชื่อเสียงของแบรนด์ของคุณ สำคัญอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นจึงต้องคอยตอบกลับรีวิวและข้อเสนอแนะทั้งเชิงบวกและเชิงลบอย่างสม่ำเสมอ
การทำเช่นนี้จะทำให้คุณสามารถแสดงให้ลูกค้าเห็นได้ว่า คุณใส่ใจ และรับทราบความคิดเห็นของพวกเขา เมื่อแขกเห็นว่าคุณตอบกลับเป็นประจำ พวกเขาก็จะมีแนวโน้มที่จะให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประสบการณ์การเข้าพัก ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงการให้บริการในด้านต่างๆ ได้
นอกจากนี้ หากแขกเห็นรีวิวเชิงลบ และเห็นว่าคุณได้ขอโทษ และจัดการกับสถานการณ์อย่างมืออาชีพ พวกเขามักจะมองว่ารีวิวที่ไม่ดีนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำ เมื่อตอบกลับความคิดเห็นเชิงลบ อย่าลืมเขียนว่า คุณได้รับทราบความคิดเห็นนั้น รวมถึงกล่าวขอบคุณบุคคลนั้นที่ได้แสดงความคิดเห็น และยืนยันว่า คุณจะจัดการกับปัญหานั้น เพื่อจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก
ปัจจุบันมีหลายวิธีในการขอความคิดเห็นจากแขก ทางเลือกสองสามทางคือการส่งอีเมลหลังการเข้าพัก พร้อมส่วนลด และขอให้เขียนรีวิว หรือถามความคิดเห็นจากแขกเป็นการส่วนตัวระหว่างการเข้าพัก
หากคุณสงสัยว่าเหตุใดโรงแรมของคุณจึงไม่มีการจองเข้ามาเลย เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่เสนอราคาห้องพักเท่ากัน นั่นก็อาจเป็นเพราะคุณไม่ได้มอบคุณภาพที่เพียงพอให้กับลูกค้า คุณภาพและคุณค่าเป็นสิ่งสำคัญ การมุ่งเน้นไปที่คุณภาพและคุณค่าจึงเป็นกุญแจสำคัญ
มีสองขั้นตอนหลักในการโปรโมทโรงแรมของคุณ และเน้นย้ำถึงคุณค่าของโรงแรม
ก่อนอื่น ต้องแน่ใจว่าได้เสนอภาพรวมและด้านดีของโรงแรมของคุณอย่างชัดเจน สิ่งนี้จะดึงดูดแขกให้เข้ามาจองห้องพักได้
ประการที่สอง ต้องรักษาคำสัญญาที่คุณได้ให้ไว้ตอนเสนอภาพรวมของโรงแรม คือ ทั้งโรงแรมและห้องพักต้องตรงปกตามที่ได้กล่างอ้างไว้นั้นเอง อีกทั้งคุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า แขกที่มาพักกับคุณต้องได้รับคุณค่าและประสบการณ์ที่ดีตลอดระยะเวลาที่พักในโรงแรมของคุณ
ประสบการณ์และคำวิจารณ์ของแขกมักไม่ได้ขึ้นอยู่กับห้องพัก และสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงแรมของคุณเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับการให้บริการและการปฏิบัติตัวของพนักงานของคุณด้วย
เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานของคุณจะบริการแขกอย่างดี คุณต้องทำความเข้าใจกับทีมงานทั้งหมด ให้เข้าใจตรงกันในทุกแง่มุม ที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของการให้บริการ วิธีการสื่อสาร และเป้าหมายเชิงกลยุทธ์โดยรวมของโรงแรม
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมักถูกมองข้าม แต่เป็นวิธีที่ดีในการเข้าถึงแขกของคุณ การใช้เครื่องมือดิจิทัลเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่ฉลาดและควรทำอย่างยิ่ง
ขั้นตอนแรกคือการเลือกแพลตฟอร์ม ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทที่พักของคุณ และผู้ที่อาจเข้ามาเป็นแขกในโรงแรมของคุณ ทุกวันนี้ Facebook หรือ Instagram เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับโรงแรม หากคุณใช้ Facebook หรือ Instagram อยู่แล้ว หรือหากคุณกำลังพิจารณาให้ Facebook หรือ Instagram เป็นหนึ่งในเครื่องมือส่งเสริมการขาย การจัดการ Facebook หรือ Instagram ในฐานะเจ้าของโรงแรมถือเป็นสิ่งที่ต้องทำ
หลังจากเลือกแพลตฟอร์มที่ต้องการแล้ว ให้ทำการโพสต์รูปถ่ายของโรงแรมของคุณ รวมถึงสถานที่ตั้ง หรือกิจกรรมน่าสนใจใกล้ๆ โรงแรมของคุณ คอยดูแลอัพเดทข่าวสารอยู่เรื่อยๆ
อาจทำการแนะนำพนักงานพร้อมรูปถ่าย และประวัติโดยย่อ หรือแชร์รีวิวที่ดีๆ จากลูกค้า
ปัจจุบันอินฟลูเอนเซอร์ได้เข้ามามีบทบาทในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างมาก ซึ่งการเชิญอินฟลูเอนเซอร์ที่มีฐานลูกค้าในตลาดเป้าหมายของคุณจำนวนมาก มาพักในโรงแรมของคุณก็อาจเป็นวิธีที่ได้ผลในการกระตุ้นยอดขายของโรงแรมคุณเช่นกัน
ห้องพักในโรงแรมเป็นเครื่องมืออันทรงพลัง คุณสามารถปรับปรุงได้โดยการแบ่งประเภทห้องพัก
กล่าวโดยสรุป หมายถึงการนำเสนอห้องพักที่มีขนาด ราคา และการออกแบบที่แตกต่างกัน เช่น ประเภทห้องพักแบบมาตรฐาน แบบ Superior แบบ Deluxe แบบ Family ฯลฯ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น ทำให้รู้ว่าห้องพักประเภทใด ที่ให้ผลกำไรสูงสุดในโรงแรมของคุณ และเพื่อปรับเปลี่ยนการพัฒนาโรงแรมต่อไปในอนาคต
การขายต่อยอด (Upsell) เป็นวิธีที่ชาญฉลาด และมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นให้แขกใช้จ่ายมากขึ้น วิธีการเพิ่มรายได้เสริมนี้ สามารถนำไปใช้ได้ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ ทางออนไลน์ คุณสามารถใช้เครื่องมือการขายต่อยอดซึ่งกระตุ้นให้ลูกค้าเพิ่มการใช้จ่ายโดยเสนอการอัปเกรดห้อง เป็นต้น
การขายต่อยอดแบบออฟไลน์ สามารถทำได้เมื่อลูกค้ามาถึงส่วนต้อนรับของโรงแรม และพนักงานเสนอการอัพเกรดห้องพักในนาทีสุดท้ายหรือบริการพิเศษตอนเช็คอิน
การโน้มน้าวให้ลูกค้าซื้อสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมสามารถเพิ่มรายได้ของคุณได้เช่นกัน การขายต่อยอด (Upselling) จะเน้นไปที่การกระตุ้นให้แขกใช้จ่ายมากขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการเดียวกัน แต่การสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้อง (Cross-Selling) จะเป็นการขายผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่นเสริมเพิ่มเติม เช่น ขายการทำสปา
โรงแรมหลายแห่งมีพื้นที่ที่ยังใช้ไม่เต็มประสิทธิภาพในปัจจุบัน อาจเป็นห้องประชุมที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือล็อบบี้ที่มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่มีการใช้งานน้อยเกินไป โดยอาจเปลี่ยนล็อบบี้ให้เป็นพื้นที่ใช้สอยสำหรับการทำงานร่วมกัน (Co-Working Space) หรือเปิดห้องประชุมสำหรับการทำธุรกิจหรือกิจกรรมส่วนตัว
มีวิธีสร้างสรรค์มากมายให้เลือก ขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้ง ขนาด และประเภทของแขกที่มาพักในโรงแรมของคุณ
การสร้างความแตกต่างให้กับโรงแรมของคุณจากคู่แข่งสามารถทำได้หลายวิธี วิธีที่ดีอย่างหนึ่งคือ มุ่งเน้นไปที่ตลาดเฉพาะทาง เพื่อดึงดูดแขกเป้าหมายที่แตกต่างจากโรงแรมอื่นๆ นอกจากนี้ การดึงดูดคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งยังช่วยเพิ่มช่องทางใหม่ๆ ในการเพิ่มรายได้ โดยการนำเสนอบริการ และผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเป้าไปที่แขกเหล่านี้โดยเฉพาะ
การมุ่งเน้นไปที่การดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับหรู หรือการสร้างโรงแรมที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงนั้น สามารถสร้างโอกาสประสบความสำเร็จได้มากมาย หรือคุณจะมุ่งเน้นเป็นโรงแรมที่เหมาะสำหรับให้ครอบครัวมาพัก หรือโรงแรมที่เน้นลูกค้าผู้หญิงโดยเฉพาะ ก็ได้ การใช้กลยุทธ์ประเภทนี้ช่วยให้คุณสร้างการนำเสนอการบริการที่แตกต่าง และดึงดูดตลาดเป้าหมายใหม่ได้อีกด้ว
ปัจจุบันเรามีเครื่องมือ และระบบที่หลากหลายสำหรับธุรกิจโรงแรม ทั้งระบบการจอง และระบบการจัดการรายได้ สามารถช่วยเพิ่มรายได้ของคุณอย่างมาก
เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถทำให้งานที่ซับซ้อน เช่น การจัดการการจองห้องพัก และการจัดการรายได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเข้าใจง่ายขึ้นสำหรับพนักงานทุกคน แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน
หากใช้เทคโนโลยีมากเกินไปในส่วนที่ไม่จำเป็น อาจทำให้มีปฏิสัมพันธ์กับแขกลดลง และทำให้ประสบการณ์โดยรวมของแขกในระหว่างที่พักในโรงแรมของคุณแย่ลง เราขอแนะนำให้คุณเลือกเทคโนโลยีของคุณอย่างระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปเพื่อสร้างสมดุลที่เหมาะสม และเพื่อให้โรงแรมของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในขณะเดียวกันก็มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าของคุณด้วย
นอกจากการมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มรายได้แล้ว การลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เช่น การลดค่าไฟฟ้า โดยใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น แอร์ ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น ฯลฯ แบบประหยัดพลังงานให้มากที่สุด และควรใช้คีย์แท็กแบบตัดไฟฟ้าในห้องพักพ่วงติดกับกุญแจห้อง หรือ ใช้คีย์การ์ดแบบที่เป็นทั้งสำหรับเปิดประตูและเสียบเปิดไฟในห้องพัก เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้องพักถูกเปิดทิ้งไว้ขณะที่แขกไม่อยู่ห้อง สิ่งนี้ทำให้โรงแรมของคุณดูทันสมัย อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าไฟได้อย่างมากด้วย อีกสิ่งที่สำคัญ คือ ควรมีวิธีหรือเครื่องมือ ป้องกันการทุจริต ในโรงแรมของคุณ เพื่อป้องกันไม่ให้รายได้รั่วไหล โดยควรมี เครื่องมือในการตรวจสอบการใช้งานห้องพัก ในโรงแรมของคุณ
สุดท้ายการจัดการรายได้ควรดูภาพรวมและนำไปปรับใช้กับทุกพื้นที่และทุกส่วนในโรงแรมของคุณให้มีความสอดคล้องกัน เพื่อให้การดำเนินงานทั้งหมดดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิผลและโดยราบรื่น เต็มศักยภาพ
เพราะฉะนั้นคุณควรใช้กลยุทธ์การสร้างรายได้ที่ไปในทิศทางเดียวกันในการบริหารและการให้บริการในโรงแรมของคุณทั้งหมด
เราหวังว่าเคล็ดลับ 22 ข้อนี้ จะให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่า และสามารถนำไปใช้ได้ เพื่อให้คุณสามารถเพิ่มรายได้จากการทำธุรกิจโรงแรมของคุณ บางสิ่งอาจทำได้ค่อนข้างง่ายในขณะที่บางสิ่งอาจใช้เวลานาน แต่ทุกอย่างก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ลจริง และจะช่วยเพิ่มรายได้ของคุณ
โปรแกรมโรงแรม H-Box ของเรา มีระบบป้องกันการทุจริต อีกทั้งยังมีระบบเช็คอิน เช็คเอาท์ ระบบจองห้องพัก โปรแกรมที่สามารถดูรายได้ออนไลน์ผ่านมือถือได้ทันที ระบบออกใบเสร็จ ระบบขายสินค้าในห้องพัก และอื่นๆ อีกมากมายที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้าของและพนักงานโรงแรม เพื่อให้การบริหารจัดการ และการวางแผนสำหรับโรงแรมของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
โดยทีมงานของเรามุ่งพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ที่ประกอบธุรกิจโรงแรม
บทความอ้างอิง
https://www.xotels.com/en/revenue-management/20-tips-to-increase-revenue-in-hotels