8 วิธีเพิ่มรายได้โรงแรมในช่วงหน้าฝน ฤดูที่มีคนออกท่องเที่ยวน้อย (Low Season)

ช่วงฤดูฝนถือเป็นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว หรือ ช่วงฤดูที่มีคนออกท่องเที่ยวน้อย หรือที่เราเรียกกันว่า Low Season ในช่วงนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจะน้อยลง ส่งผลให้รายได้ของโรงแรม รีสอร์ท มักลดน้อยลงหรือชะลอตัวลงไปด้วย แต่ถ้าหากคุณรู้และนำกลยุทธ์ต่างๆ ต่อไปนี้ไปปรับใช้ คุณอาจพลิกเกมทำให้ช่วง Low Season กลายเป็นช่วงที่รายได้ดีขึ้นมา และเตรียมพร้อมสำหรับช่วง High Season ที่จะปังสุดๆ

ธุรกิจโรงแรมช่วง Low Season

1. คาดการณ์ วางแผน และกำหนดว่า ช่วง Low Season เริ่มขึ้นและสิ้นสุดลงตอนไหน

อันดับแรกที่คุณจะต้องทำคือ การคาดการณ์และกำหนดให้ชัดว่า ช่วงเดือนไหนถึงเดือนที่นักท่องเที่ยวมักจะมาเข้าพักที่โรงแรมของคุณน้อย ขั้นตอนนี้สำคัญเนื่องจากว่า คุณจะได้เห็นภาพรวมว่าในช่วงไหนคุณจะต้องกระตุ้นการเข้าพักโดยการจัดโปรโมชั่นที่น่าดึงดูดต่างๆ และโปรโมชั่นนั้นๆ ควiจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่

นอกจากนั้นแล้ว การเห็นภาพรวมยังช่วยให้คุณเตรียมการจัดการทุกอย่างในโรงแรมของคุณได้ดียิ่งขึ้น เช่น หากคุณมีแผนจะซ่อมแซมปรับปรุงโรงแรม หรือเพิ่มจำนวนห้องพัก คุณก็จะทราบว่า ควรเริ่มดำเนินการเมื่อไหร่ และต้องเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ เพื่อกระทบลูกค้าและกระทบรายได้ของคุณให้น้อยที่สุด

อีกทั้งคุณจะสามารถวางแผนการซื้อสิ่งของสำหรับแขกที่มาพัก เช่น ชา กาแฟ น้ำดื่ม อาหาร กระดาษชำระ ฯลฯ ได้ถูก โดยจะทราบว่า ควรเพิ่มหรือลดปริมาณในช่วงเดือนไหนบ้าง และคุณยังสามารถบริหารควบคุมการทำงานในแต่ละแผนกได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย เช่น วางแผนว่า ในช่วงเดือนไหนจะต้องเพิ่มหรือลดพนักงานต้อนรับ พนักงานทำความสะอาด ยามเฝ้าโรงแรม ฯลฯ

การคาดการณ์ที่แม่นยำและการวางแผนที่ชาญฉลาดเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาและเพิ่มรายได้จากธุรกิจโรงแรมของคุณ และยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายของคุณได้อีกด้วย

2. ตามเทรนด์ Staycation / Sleep Tourism – ดึงกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่มาพัก

ปัจจุบันในกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่มีเทรนด์การมาพักโรงแรมในลักษณะของ Staycation และ Sleep Tourism เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยนักท่องเที่ยวทั้ง 2 ลักษณะนี้จะนิยมมาพักโรงแรมในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว หรือ Low Season นั้นเอง เนื่องจากต้องการความสงบ หลีกเลี่ยงความพลุกพล่าน เพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไม่ได้เน้นการไปชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่จะเน้นการพักผ่อน ชาร์จพลังให้กับตนเอง เปลี่ยนที่นอน เปลี่ยนบรรยากาศ หากจะทำกิจกรรมก็จะมองหากิจกรรมภายในโรงแรมที่พัก

เทนรด์นี้ถือเป็นโอกาสอันดีเยี่ยมสำหรับเจ้าของโรงแรม หากสามารถดึงกลุ่มลูกค้านี้ให้เลือกโรงแรมของตนสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนได้ ก็จะสามารถเพิ่มรายได้ในช่วง Low Season เป็นอย่างมาก

สิ่งที่ลูกค้ากลุ่ม Staycation และ Sleep Tourism มักจะมองหาคือ โรงแรมที่เงียบสงบ มีบรรยากาศชวนให้ผ่อนคลาย รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ห้องพักต้องสะอาดและควรมีขนาดห้องที่พอดี สามารถนอนเล่นพักผ่อนได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด ควรใช้ชุดเครื่องนอนที่มีคุณภาพเพื่อผิวสัมผัสที่นุ่มสบายเวลานอน และควรมีอุปกรณ์ ของใช้ที่จำเป็น เช่น สบู่ ยาสระผม ไดร์เป่าผม น้ำดื่ม มินิบาร์ อินเตอร์เน็ตไวไฟ ฯลฯ อย่างครบครัน

นอกจากนั้นแล้วควรมีบริการอาหารเช้า มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือมีบริการอาหารตามสั่ง พร้อมเครื่องดื่มต่างๆ ในโรงแรม เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายที่สุด ไม่จำเป็นต้องออกไปนอกโรงแรมเพื่อหาซื้ออาหารหรือเครื่องดื่ม อีกทั้งควรคำนึงถึงกิจกรรมต่างๆ ในโรงแรมที่จะสามารถเสนอให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ได้ เช่น บริการนวดแผนไทย นวดผ่อนคลาย การทำสปา เครื่องเล่นสันทนาการ เช่น โต๊ะฟุตบอลแบบมือหมุน เกมกล่อง ฯลฯ

Staycation

หากเจ้าของโรงแรมสามารถปรับโรงแรมของตนให้พร้อมต้อนรับและดึงลูกค้ากลุ่ม Staycation และ Sleep Tourism มาพักได้ ก็จะสามารถสร้างรายได้ในช่วง Low Season ได้ไม่ยาก ทั้งนี้เมื่อปรับโรงแรมให้พร้อมแล้ว สิ่งสำคัญคือ ต้องมีการประชาสัมพันธ์ สื่อสาร ทำการตลาดให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย ยิ่งถ้ามีการจัดโปรโมชั่นหรือแพ็คเกจพิเศษต่างๆ จะยิ่งช่วยกระตุ้นความน่าสนใจของโรงแรมของคุณได้อีกด้วย

ระบบโรงแรม

3. ถือโอกาสใช้ช่วง Low Season ในการพัฒนาปรับปรุงโรงแรมของคุณ เพื่อความปังยิ่งๆ ขึ้นไปในช่วง High Season ที่จะมาถึง

ช่วง Low Season เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการพัฒนาปรับปรุงโรงแรม หรือสำหรับงานซ่อมแซมทุกประเภทที่ต้องใช้เวลาสักระยะ เพราะเป็นช่วงเวลาที่กระทบการมาพักผ่อนของแขกที่มาพักน้อยที่สุด

อะไรก็ตามที่คุณเคยคิดวางแผนจะทำเกี่ยวกับโรงแรมของคุณเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น วางระบบโรงแรมใหม่ ติดตั้งระบบตรวจสอบการเปิดใช้ห้องพักเพื่อป้องกันรายได้รั่วไหล ติดตั้งระบบคีย์แท็กประหยัดไฟ กระจายความแรงของอินเตอร์เน็ต WIFI หรือปรับปรุงเพื่อความสวยงาม เช่น ทาสีผนังใหม่ ปรับปรุงห้องน้ำ เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะลงมือทำสิ่งเหล่านี้

ระบบโรงแรม H-Box ของเรา มีระบบสำหรับตรวจจับการทุจริต ป้องกันการแอบเปิดห้องพัก และยังมีระบบเช็คอินเช็คเอาท์อีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถดูรายได้ออนไลน์ได้เลย ระบบโรงแรม

อีกทั้งยังเป็นเวลาที่เหมาะแก่การฝึกอบรมพนักงาน คุณสามารถจัดฝึกอบรมเกี่ยวกับการต้อนรับ การสร้างความประทับใจ การจองห้องพัก หรือการรับมือแก้ปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขี้น ให้กับพนักงานแผนกต้อนรับ จัดการอบรมเกี่ยวกับการขายและต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้กับพนักงานในร้านอาหาร และฝึกอบรมการดูแลทำความสะอาด และการดูแลความปลอดภัยให้กับแม่บ้านและยาม สำหรับสิ่งนี้ คุณควรนำรีวิวและคอมเม้นต์ต่างๆ ของแขกที่เคยมาพักมาใช้ในการวิเคราะห์ ว่าควรปรับปรุงด้านใดบ้าง

นอกจากนั้น ช่วง Low Season ยังเป็นช่วงที่เหมาะอย่างมากในการทำความสะอาดโรงแรมครั้งใหญ่ รวมถึงเหมาะแก่การอัพเดทเว็บไซต์โรงแรม อัพเดทช่องทางโซเชียลมีเดียของโรงแรมทั้งหมด และรวบรวมคำติชมจากแขกและพนักงานเพื่อนำมาปรับปรุงอีกด้วย

4. ขยายกลุ่มลูกค้าของโรงแรม สร้างกระแสรายได้จากกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ

โดยปกติแล้วโรงแรมอาจมีกลุ่มลูกค้าเฉพาะเจาะจงอยู่แล้ว เช่น บางโรงแรมจะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นส่วนมาก บางโรงแรมมักจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้ามาพัก ช่วง Low season ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการขยายกลุ่มเป้าหมายลูกค้าของคุณ และสร้างรายได้จากกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ

วิธีการสร้างดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ให้เข้ามาพักที่โรงแรมของคุณอาจทำได้โดยการออกโปรโมชั่นพิเศษสำหรับเฉพาะกลุ่ม เช่น ถ้าหากโรงแรมของคุณมักจะมีชาวต่างชาติเข้ามาพักเสียส่วนใหญ่ คุณก็อาจจะออกโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะสำหรับผู้มาพักชาวไทย หรือหากช่วง Low Season ไม่ค่อยมีคนมาเที่ยว คุณก็อาจจะออกโปรโมชั่นพิเศษสำหรับเซลล์ที่ต้องมาติดต่องาน หรือโปรโมชั่นสำหรับบริษัทที่ต้องการจัดกิจกรรม outing ให้พนักงาน หรือจัดงานสัมมนา หรืองานเลี้ยงฉลองอื่นๆ อย่ากำหนดช่วงเวลาสิ้นสุดของโปรโมชั่นพิเศษเหล่านั้นด้วย เมื่อลูกค้ามาพบเจอโปรโมชั่นแบบนี้จะรู้สึกว่า นี่เป็นโอกาสที่ไม่ควรพลาดเลย

นอกเหนือไปจากตลาดกลุ่มลูกค้าที่มาพักโรงแรมเพื่อการท่องเที่ยว หรือการพักผ่อน หรือเพื่อธุรกิจแบบดั้งเดิมแล้ว ยังสามารถแบ่งและกำหนดกลุ่มลูกค้าโรงแรมเป็นประเภทอื่นๆ ได้อีก ดังต่อไปนี้:

ขยายกลุ่มลูกค้าโรงแรม
  • กลุ่มลูกค้ารุ่น Millennials หรือที่เรียกว่า Gen Y (เกิดช่วงประมาณระหว่าง พ.ศ. 2523 – 2543) และกลุ่มลูกค้ารุ่น Z หรือ Gen Z (เกิด พ.ศ. 2540 – 2555 ) และ Gen X (เกิดระหว่าง พ.ศ. 2508-2522 ) โดยคนรุ่น Millennials จะมีจำนวนการเดินทางสูงสุดต่อปี เมื่อเทียบกับ Gen-Z, Gen X และ Boomers เพราะฉะนั้นการศึกษาว่า Gen Y มีความนิยมในการเลือกโรงแรมที่พักอย่างไรจะทำให้คุณได้เปรียบ แต่ก็ควรศึกษาความต้องการและความชอบของคน Gen อื่นๆ ด้วย หากคุณอยากดึงกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ให้มาพักที่โรงแรมของคุณให้มากขึ้น
  • Wellness Travel – กลุ่มลูกค้าโรงแรมที่เน้นเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพจิต มีมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน กลุ่มลูกค้าเหล่านี้ต้องการการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจจากความอ่อนล้าจากการทำงานและความเครียด โดยอาจจะไม่ได้เน้นการไปท่องเที่ยว แต่เน้นการพักผ่อนและพักฟื้นในสภาพแวดล้อมที่สงบผ่อนคลาย การมาพักผ่อนในโรงแรมของกลุ่มลูกค้าเหล่านี้จึงไม่ได้ผูกติดกับว่าเป็นช่วง High Season หรือ Low Season แต่สามารถเลือกมาพักผ่อนในโรงแรมได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
ลูกค้านักท่องเที่ยวกับสัตว์เลี้ยง
  • Bleisure Travel เป็นเทรนด์ที่มาแรงในธุรกิจท่องเที่ยว Bleisure Travel เป็นการผสมผสานทั้งงานและความสุขไว้ในทริปเดียว ลูกค้าเหล่านี้อาจต้องการทำงานนอกสถานทีเพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศและสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการทำงาน หากโรงแรมของคุณเอื้อสำหรับการพักผ่อน อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการนั่งทำงาน เช่น โต๊ะทำงาน ปลั๊กสำหรับการชาร์จคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คอย่างเพียงพอ หรืออาจมีพื้นที่ Co-Working Space หรือห้องประชุมขนาดเล็กหรือใหญ่ มีกาแฟ ขนมขบเขี้ยวจำหน่าย คุณก็วางแผนโปรโมทเรียกกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ได้เลย
  • Baby Boomers – ผู้คนทั่วโลกมีอายุยืนยาวขึ้น เนื่องจากคน Baby Boomers (ผู้ที่เกิดช่วงระหว่าง พ.ศ. 2489 – 2507) มักอยู่ในช่วงวัยเกษียณ พวกเขาจึงมีเวลาว่างมากกว่ากลุ่มลูกค้าอื่นๆ และเป็นกลุ่มตลาดเป้าหมายสำหรับช่วง Low Season ที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง การออกโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษสำหรับ Baby Boomers จึงเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
  • นักท่องเที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยง การทำให้โรงแรมของคุณเป็นที่ที่ต้อนรับสัตว์เลี้ยง และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นานาสำหรับลูกค้าที่มีและรักสัตว์เลี้ยงสามารถช่วยให้คุณดึงดูดเจ้าของที่ไม่อยากทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้อยู่บ้านตามลำพังเวลาไปเที่ยว

5. ใช้การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

โรงแรมของคุณสามารถเพิ่มรายได้ในช่วง Low Season ได้ด้วยการโฆษณา ทำให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มตลาดลูกค้าต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้นด้วยกลยุทธ์หลายประการ ดังต่อไปนี้:

  • โฆษณาโรงแรม โฆษณาโปรโมชั้นที่น่าสนใจโดยใช้ Google Ads, Facebook, Tiktok, Instagram ฯลฯ
  • เพิ่มค่าโฆษณาในการทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหา เช่น เวลาค้นหาด้วย Google โดยซื้อคีย์เวิร์ด (Keyword) ที่ตรงกับโรงแรมของคุณทั้งทางตรงทางอ้อม ขยายการเข้าถึงของแคมเปญกำหนดเป้าหมายใหม่ออนไลน์และเปิดตัวแคมเปญดิสเพลย์ที่ตรงเป้าหมาย
การตลาดธุรกิจโรงแรม
แพ็คเกจโรงแรม

6. สร้างความแตกต่างด้วยแพ็คเกจพิเสษและการสื่อสารที่เข้าถึงลูกค้า

คุณอาจร่วมมือกับร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านสปา ร้านนวด หรือที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่น เพื่อนำเสนอแพ็คเกจหรือบริการที่น่าสนใจสำหรับลูกค้าโรงแรมของคุณ แพ็คเกจเหล่านี้จะเสริมธุรกิจของคุณและทำให้การมาพักโรงแรมของคุณมีความโดดเด่นแตกต่างจากการไปพักที่อื่นๆ

สำหรับลูกค้าใหม่ที่มีโอกาสจะมาเข้าพักในโรงแรมของคุณ คุณควรนำเสนอกิจกรรมหรือแพ็คเกจ โปรโมชั่นต่างๆ ผ่านบล็อกโพสต์และโซเชียลมีเดียของคุณ ส่วนลูกค้าที่เคยมาพักโรงแรมของคุณแล้ว คุณควรสื่อสารแจ้งโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ กับลูกค้าเหล่านั้นโดยตรง โดยอาจจะใช้ช่องทางที่ลูกค้าเคยติดต่อจองห้องกับคุณมาแล้ว เช่น ทาง LINE, Messenger, WhatsApp หรืออีเมลเพื่อเชิญชวนให้มาพักโรงแรมของคุณอีก

7. สร้างความอยากให้มาพักที่โรงแรมของคุณอีก

บัตรสมาชิกโรงแรม รีสอร์ท หรือบัตรสะสมแต้มจำนวนการมาเข้าพักจะช่วยส่งเสริมให้ลูกค้าอยากกลับมาพักซ้ำที่โรงแรมของคุณอีก หรือคุณอาจให้รางวัลกับลูกค้าที่เลือกมาพักในโรงแรมของคุณโดยการมอบของขวัญต้อนรับ ส่วนลดพิเศษ การอัพเกรดห้องพัก หรือจัดกิจกรรมการจับฉลากรางวัล หรือเสิร์ฟเครื่องดื่มฟรี (Welcome Drink) หรือกาแฟฟรีเมื่อลูกค้ามาเข้าพักในโรงแรมของคุณในครั้งนี้ หรือให้เป็นคูปองสำหรับการมาพักในในครั้งถัดไปก็ได้ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่าจะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่มาพัก ทำให้พวกเขาจดจำโรงแรมของคุณในทางที่ดี และอยากกลับมาพักอีก

กลยุทธ์โรงแรม
ลดราคาห้องพัก

8. ใช้กลยุทธ์กำหนดราคา

การลดราคาห้องพักจะมีผลกับลูกค้าที่สนใจในเรื่องของราคาเป็นหลัก การลดราคาห้องพักเป็นวิธีที่ง่ายและให้ผลเร็วในการดึงดูดลูกค้ากลุ่มให้ตัดสินใจมาเข้าพักในโรงแรมของคุณ อย่างไรก็ตาม การตั้งราคาลดพิเศษควรคำนึงถึงภาพลักษณ์และชื่อเสียงของโรงแรมของคุณด้วย เช่น ถ้าโรงแรมของคุณมีชื่อเสียงในทางที่ดีมากๆ เป็นโรงแรมที่มีมาตรฐานสูง ก็ไม่ควรลดราคาให้ต่ำเกินไปจนทำลายภาพลักษณ์ของโรงแรม แต่ควรเป็นราคาที่เหมาะสมกับช่วง Low Season และหันไปเน้นที่บริการและคุณภาพของที่พัก รวมถึงประสบการณ์การมาเข้าพักที่ดีของแขก ควรคำนึงว่า ถึงแม้การลดราคาจะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่การให้ส่วนลดอาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องเสมอไป

การปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ในการเอาชนะความท้าทายของจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ที่ลดลงในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว หากคุณสามารถปรับกลยุทธ์ โฆษณาประชาสัมพันธ์ และสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณ และให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้ ช่วง Low Season ก็จะยังคงเป็นช่วงที่มีโอกาสดีๆ ในการสร้างรายได้จากธุรกิจโรงแรมเข้ามาอยู่เรื่อยๆ

เตรียมโรงแรมของคุณสำหรับช่วงหน้าฝนและ Low Season

โรงแรมต่างๆ มักยอมแพ้ในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว และยอมรับสภาพว่าธุรกิจในช่วงดังกล่าวจะซบลงอย่างมาก แต่ด้วยการวางแผนเชิงรุกนี้ คุณสามารถเพิ่มความสำเร็จของคุณให้สูงขึ้นในช่วง Low Season ได้

ขอบคุณบทความจาก
https://www.xotels.com/en/revenue-management/how-to-increase-hotel-revenue-in-low-season

และขอบคุณบทความจาก

https://moneyandbanking.co.th/2024/108802/?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR21k2dJhlHTDnOfkRKsko09k743YwKNO7OsMveXKvklT0G6SlXAj1oBM6I_aem_AYT9R6SoIUM12Td7HedzNXgBaTb_UkXIdPXLF_JWSvoCtEfLSVrxq44Yq8bDQa9INdHb8aWJzk9e4U0YIN8YD4_U