สำหรับใครที่กำลังคิดกำลังศึกษาเรื่องการเริ่มต้น ธุรกิจโรงแรม และการทำโรงแรมนั้น เราได้รวบรวมข้อเสนอแนะ เนื้อหา และเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของโรงแรม รีสอร์ท ตั้งแต่เริ่มต้นวางแผนไปจนกระทั่งเริ่มเปิดธุรกิจเลย การออกแบบ ตกแต่งโรงแรม รีสอร์ท ให้ดูสวยงาม สะอาดสะอ้าน มีเอกลักษณ์ ก็เป็นสิ่งสำคัญในการดึงดูดให้ลูกค้าเลือกมาพักในโรงแรมของเรา
ใน ตอนที่ 3 นี้ เราจะพูดถึงการออกแบบ ตกแต่งโรงแรม รีสอร์ท
โรงแรมหรือรีสอร์ทที่ออกแบบตกแต่งได้อย่างสวยงาม โดดเด่น มีเอกลักษณ์ มักจะดึงดูดแขกให้มาเข้าพักได้เป็นจำนวนมาก เพราะเวลามาเที่ยวพักผ่อน นักท่องเที่ยวก็อยากจะได้รับความสะดวกสบายควบคู่ไปกับการพบเจอสิ่งแปลกใหม่ ยิ่งถ้าโรงแรมหรือรีสอร์ทของคุณจัดให้มีมุมสวยๆ น่ารักๆ ไว้ให้ถ่ายรูปแล้วละก็ จะยิ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจของลูกค้า แถมยังเป็นผลดีต่อคุณ เพราะหากแขกถ่ายรูปแล้วโพสท์ลงสื่อโซเชียล ก็จะทำให้โรงแรมของคุณยิ่งเป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้น เท่ากับเป็นการโฆษณาไปในตัว เพราะฉะนั้นจะดีมาก หากคุณได้วางแนวทางและรูปแบบสไตล์การตกแต่งโรงแรมเอาไว้ตั้งแต่ต้น
ในบทความนี้เราจะแนะนำรูปแบบสไตล์การตกแต่งโรงแรมและห้องพัก 5 แบบ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับเจ้าของโรงแรม คุณสามารถนำแนวคิดเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ ไปต่อยอด หรือปรับปรุงเพิ่มเติมได้ เพื่อให้โรงแรมหรือรีสอร์ทของคุณดูสวยงาม มีเสน่ห์ ไม่เหมือนใคร
โรงแรมส่วนมากจะเลือกสไตล์การตกแต่งลักษณะนี้ เนื่องจากการออกแบบตกแต่งจะไม่ยุ่งยาก ดูแลรักษาพื้นที่ต้อนรับและห้องพักง่าย อีกทั้งยังเป็นลักษณะการตกแต่งที่เหมาะกับแขกทุกประเภทและทุกวัย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินอกจากนั้นแล้ว กลุ่มเซลล์หรือกลุ่มพนักงานที่จัดสัมมนาก็จะชอบเลือกเข้าพักโรงแรมแนวนี้อีกด้วย
โรงแรมหรือรีสอร์ทแนวนี้อาจใช้สีหลักๆ ในการตกแต่งไม่มากจนเกินไป สีภายนอกและภายในโรงแรมและสีผนังห้องเน้นสีที่ทำให้ดูโปร่งโล่ง สว่าง และสะอาดตา เช่น สีขาว สีครีม สีเนื้ออ่อน สีส้มอ่อน ฯลฯ อาจมีเล่นสีบ้างเล็กน้อยเพื่อตัดกับสีพื้นและให้ดูไม่น่าเบื่อ แต่สีที่มาตัดจะต้องไม่มากจนเกินไป เพื่อให้สีหลักนั้นคงความโดดเด่น ดูเรียบร้อย และสะอาด
แผนผังในส่วนของพื้นที่ต้อนรับ ในห้องพัก ห้องอาหาร ห้องสัมมนา จะเน้นให้ดูกว้างและโล่ง กำหนดพื้นที่แต่ละส่วนอย่างชัดเจนและใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย เช่น หากมีห้องอาหารหรือห้องสัมมนา ก็ควรมีห้องน้ำอยู่ใกล้ๆ ไว้ให้บริการด้วย
โรงแรมแนวนี้อาจไม่ได้เน้นการตกแต่งอะไรมากมาย เพราะฉะนั้นควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับแขกที่มาพักอย่างครบครันให้มาก เช่น ในห้องพักอาจมีโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้สำหรับแขกประเภทเซลล์ที่ต้องนั่งทำงาน ตรงพื้นที่ส่วนกลาง อาจมีมุมกาแฟและขนมไว้ให้แขก อาจมีฟิตเนสพร้อมเครื่องออกกำลังกายไว้บริการ มีลิฟท์ มีห้องอาหาร มีจักรยานให้เช่า ฯลฯ
สไตล์นี้จะไม่มีของตกแต่งที่ไม่จำเป็นหรือของตกแต่งประเภทกระจุ๋มกระจิ๋มสักเท่าไหร่ เพราะต้องการให้ดูเรียบร้อย สะอาดสะอ้าน เหมาะกับแขกทุกเพศทุกวัย
อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มความโดดเด่นของโรงแรมลักษณะนี้ คุณอาจจะออกแบบให้โรงแรมของคุณมีความทันสมัยเป็นพิเศษเพื่อสร้างความแตกต่างก็ได้ เช่น มีระบบ key tag สำหรับเข้าออกห้องพัก ลงทุนซื้อฝารองนั่งชักโครกที่มีระบบทำความสะอาดอัตโนมัติติดตั้งไว้ในห้องพัก มีฝักบัวแบบ rain shower หรือฝักบัวแบบปรับระดับความแรงของน้ำได้ โทรทัศน์มีช่องหนังและรายการบันเทิงที่หลากหลาย ฯลฯ
นอกจากนั้นเฟอร์นิเจอร์ เช่น เตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะ เก้าอี้ ควรจะเข้าชุดกันและเป็นเรียบๆ แต่แข็งแรง มั่นคงและทำความสะอาดง่าย เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องทำน้ำร้อน โทรทัศน์ควรจะเป็นรุ่นที่ทันสมัย ดูดี มีคุณภาพ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็ควรจะเลือกที่คุณภาพดี สีเข้าชุดกัน
สไตล์การตกแต่งลักษณะนี้อาจออกแบบให้ห้องพักทุกห้องเหมือนกันหมด หรือต่างกันเพียงเล็กน้อยก็ได้ เพื่อให้ภาพรวมของโรงแรมหรือรีสอร์ทดูมีความสอดคล้องกันให้มากที่สุด
สไตล์การตกแต่งลักษณะนี้น่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของกลุ่มลูกค้าที่อายุไม่มากไปจนถึงกลุ่มลูกค้าวัยกลางคนและวัยทำงาน เหมาะสำหรับคู่รักหรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการมาเที่ยวพักผ่อนด้วยกัน
ลักษณะการตกแต่งแนวนี้จะต้องฉีกแนวกว่าสไตล์แบบแรก คุณอาจเล่นสี คือทาสีผนังภายนอก ภายในให้มีสีสัน หรือมีภาพวาดผนังแนวๆ ที่ไม่ซ้ำใคร หรือมีสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่แปลกออกมาหน่อย เช่น มีระเบียงหรือบันไดวนสวยๆ ประดับด้วยไม้เลื้อย บันไดแปลกๆ มีรูปปั้นน่ารักๆ อาจมีสวนที่ตกแต่งได้อย่างแปลกตา พร้อมดอกไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งหรือหลากหลายชนิด มีชิงช้าหรือมุมนั่งพักผ่อนชิลล์ๆ ในสวนหรือในบริเวณพื้นที่ต้อนรับ
ห้องพักก็ควรออกแบบให้มีเอกลักษณ์เข้ากับภาพรวมทั้งหมดของโรงแรม สามารถตกแต่งให้แหวกแนว ดูสนุก สดใส หรือตกแต่งให้ดูอ่อนหวาน น่ารัก ชวนฝัน ด้วยเตียงสไตล์โรแมนติก ผ้าม้านสวยๆ หรือผ้าพลิ้วๆ ไว้ให้สาวๆ ยืนถ่ายรูป หรือตกแต่งแบบชิคๆ คูลๆ ก็ได้ การใส่ใจในดีไซน์ รายละเอียด การ mix & match คือจับสิ่งต่างๆ มาผสมผสานกันอย่างลงตัว การเลือกใช้ของประดับตกแต่ง เป็นสิ่งสำคัญ คุณสามารถใช้จินตนการและความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่เพื่อให้ห้องพักดูโดดเด่น
อาจจะจัดห้องพักแต่ละห้องให้ดูแตกต่างกัน ตั้งชื่อเก๋ๆ ให้แต่ละห้อง เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แขกที่มาพักได้อีกด้วย ทั้งนี้ก็ไม่ควรลืมคำนึงถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับแขกทั้งในและนอกห้องพักด้วย
อย่างไรก็ตามสำหรับการออกแบบตกแต่งโรงแรมแนวนี้ คุณควรกำหนดแนวคิดให้ชัดเจน เพื่อให้ไม่ให้ภาพรวมออกมาดูสะเปะสะปะ นอกจากนั้นน่าจะเป็นความคิดที่ดีหากคุณสร้างจุดเด่นอะไรสักอย่างสำหรับโรงแรมของคุณเพื่อให้เป็นที่จดจำสำหรับแขกที่มาพัก
นี่เป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้ในวงกว้าง มักจะเป็นที่ถูกใจลูกค้าส่วนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งยังสามารถเป็นโรงแรมเพื่อให้บริษัทต่างๆ เช่าเพื่อจัดสัมมนาก็ได้ หากถึงแม้ว่าโรงแรมหรือรีสอร์ทไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก แต่คุณก็ยังสามารถออกแบบตกแต่งให้ดูเป็นโรงแรมที่มีระดับ สวยหรู ดูแพงได้เช่นกัน
สำหรับการออกแบบโรงแรมหรือรีสอร์ทแนวนี้ สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ ควรใช้วัสดุ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องสุขภัณฑ์ ของใช้ ของประดับตกแต่งที่เข้าชุดกันและมีคุณภาพดีเป็นพิเศษ แขกที่มาเข้าพักจะเห็น สัมผัส และรู้สึกได้ว่คุณได้ลงทุนใช้ของที่มีคุณภาพ
การออกแบบ ตกแต่งทุกอย่างควรวางแผนมาเป็นอย่างดี หรือจ้างนักตกแต่งภายในมาออกแบบให้คุณ
สีหลักที่ใช้ควรเป็นสีที่ดูหรู มีระดับ เช่น สี ivory white (สีขาวงาช้าง) ซึ่งจะเป็นสีขาวนวลๆ สามารถนำมาตัดกับสีอื่นได้หลากหลาย หรืออาจใช้สีไม้หรือสีน้ำตาลเป็นหลักตัดกับสีทอง หรือสีขาวหรือสีครีมอ่อนตัดกับสีน้ำตาลหรือสีทอง หรือสีเทาโทนสวยๆ ตัดกับสีขาว ฯลฯ ควรหลีกเลี่ยงการใช้สีสันมากจนเกินไป
พื้นที่ส่วนต้อนรับ ห้องอาหาร และห้องพักทุกห้อง ควรออกแบบให้เป็นดีไซน์เดียวกันและเข้าชุดกันเพื่อดูมีระดับ เพดานควรสร้างให้สูง เพราะจะทำให้พื้นที่ภายในดูโอ่อ่าขึ้น หรือถ้าหากไม่สามารถสร้างเพดานให้สูงได้ก็อาจติดผ้าม่านให้สูงชิดกับเพดานด้านบนแล้วให้ผ้าม่านยาวลงมาถึงพื้น จะช่วยหลอกตาให้ดูเหมือนเพดานสูงขึ้นและห้องดูโปร่งขึ้นได้
นอกจากนั้นการใช้แสงไฟให้ถูกจุดถูกสถานที่ ก็ช่วยให้โรงแรมและห้องพักดูหรูขึ้นมาได้ สีของแสงไฟมีผลต่อการสร้างบรรยากาศในห้องอย่างมาก เพราะฉะนั้นการเลือกหลอดไฟสีนวลๆ ที่ดูคล้ายๆ แสงเทียนก็อาจเป็นความคิดที่ดี ถ้าหากในพื้นที่ต้อนรับมีภาพวาดงานศิลปะ หรือรูปปั้น หรือน้ำพุสวยๆ ก็อาจติดตั้งไฟให้ส่องไปที่นั้นเพื่อทำให้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้นได้
กลิ่นก็เป็นสิ่งที่สร้างบรรยากาศได้เป็นอย่างดีและเพิ่มความหรูหราได้ คุณอาจใช้น้ำมันหอมระเหย หรือก้านไม้กระจายกลิ่นในขวดสวยๆ วางไว้ตามจุดต่างๆ ทั้งนี้ต้องพิถีพิถันเลือกกลิ่นที่หอม ที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายหรือรู้สึกสดชื่น และเป็นกลิ่นที่คนส่วนมากน่าจะชอบ กลิ่นจะต้องไม่แรงเกินไป และให้โชยมาเพียงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้รบกวนแขกที่อาจไม่ค่อยชอบน้ำหอมมากนัก
เฟอร์นีเจอร์และของใช้ภายในห้องพัก เช่น เตียง โต๊ะ โคมไฟ ผ้าม่าน ควรเลือกอย่างพิถีพิถัน เข้าชุดและดูดี ผ้าปูที่นอนต้องเข้าชุดกันและเข้ากับเตียงและการตกแต่งภายในห้อง อาจเลือกใช้ผู้ปูแบบ cotton satin ที่มีจำนวนเส้นด้ายอยู่ที่ประมาณ 300 – 600 เส้นใยต่อตารางนิ้ว เส้นใยต่อตารางนิ้วยิ่งสูง ผ้านั้นก็จะยิ่งละเอียดและนุ่ม แต่ราคาก็จะสูงด้วย ผ้าปูแบบ cotton satin ที่มีเส้นใยมาก จะดูสวย หรู มันเงา ให้สัมผัสที่นุ่มลื่นและเย็นสบาย เวลาแขกนอนจะรู้สึกได้ว่าเป็นผ้าปูที่คุณภาพดี ให้ความรู้สึกนอนสบาย ของประดับภายในห้องควรมีแต่พอดี และมีเพื่อให้ภาพรวมของห้องดูสวยเด่นขึ้น
อีกสไตล์ที่เหมาะสำหรับการตกแต่งโรงแรมหรือรีสอร์ท คือสไตล์แบบไทยๆ หรือแบบย้อนยุคที่จัดแต่งออกมาให้ดูสวย มีเสน่ห์ น่าสนใจ สไตล์นี้น่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองไทย แต่สำหรับคนไทยหลายๆ คนก็น่าจะถูกใจการตกแต่งแนวนี้ด้วยเช่นกัน
การตกแต่งแนวไทยๆ จะเน้นวัสดุจากธรรมชาติ เช่น ไม้ หรือไม้ไผ่ หรือหวาย เป็นหลัก อาจเลือกใช้วัสดุไม้สำหรับ พื้น ผนังห้อง บันได้ โต๊ะ เก้าอี้ เตียง ประตู หน้าต่าง ฯลฯ โดยอาจใช้ไม้สำหรับทั้งโรงแรมเป็นหลัก หรือใช้ไม้เพียงบางส่วนเพื่อสร้างกลิ่นอายของความเป็นไทยก็ได้ เช่น ผนังเป็นคอนกรีตแต่ประตูเป็นไม้แบบไทยๆ ที่มีกลอนประตูเป็นไม้ขัด หรือสลักเดือย กระจกที่มีกรอบไม้แกะสลัก เฟอร์นิเจอร์ไม้แบบไทยๆ สัก 2-3 ชิ้น หมอนสามเหลี่ยมและหมอนอิงแบบไทยๆ ภาพไม้แกะสลัก ฯลฯ
การวางแผนผังภายในควรกั้นผนังให้น้อย เพื่อให้ดูโปร่งสบาย บางส่วนอาจใช้ฉากกั้นสวยๆ เพื่อแบ่งสัดส่วนพื้นที่ให้ชัดเจนก็ได้ แต่ไม่ควรมากเกินไป
ถ้าเป็นไปได้ควรสร้างเพดานให้สูงเพื่อเพิ่มความโปร่งโล่งสบายอีกด้วย
นอกจากนั้น คุณยังสามารถเพิ่มความสดชื่นสำหรับแนวการตกแต่งแนวนี้ได้ด้วยการนำดอกไม้ประดับที่สวยงามมาวางตามจุดต่างๆ เช่น เอาถ้วยขนาดใหญ่หน่อยใส่น้ำแล้วลอยดอกลีลาวดี ก็จะให้ความรูสึกสดชื่น ผ่อนคลายเหมือนอยู่ในสปา อีกทั้งการผสมผสานสีไม้กับผ้าปู ผ้าม่านสีขาวๆ หรือสีสว่างๆ ก็สร้างอารมณ์เหมือนอยู่ในสปาได้อีกด้วย
การตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ ภายในพื้นที่ต้อนรับและภายในห้องพักก็สามารถสอดแทรกความเป็นไทยได้ เช่น ตกแต่งด้วยผ้าทอ เครื่องจักสาน และข้าวของเครื่องใช้แบบไทยๆ ที่น่ารักๆ เช่น ปิ่นโต กระเบื้องดินเผา กระเบื้องเซรามิก ฯลฯ
ทั้งนี้หากคุณผสมผสานความเป็นไทยรวมกับความทันสมัยสะดวกสบายได้อย่างลงตัว คุณก็จะสามารถสร้างความประทับใจให้กับแขกที่มาพักได้เป็นอย่างมาก เช่น โรงแรมดูเป็นสไตล์ย้อนยุค ห้องอาบน้ำก็ตกแต่งแบบย้อนยุค แต่สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำใช้แบบที่มีความทันสมัย ในโรงแรมและในห้องพักมีสิ่งอำนวยครบครัน มีไวไฟความเร็วสูง มีแอร์ โทรทัศน์ และอื่นๆ คือได้ทั้งบรรยากาศแบบย้อนยุคและความสะดวกสบาย
นอกจาก 4 สไตล์ที่กล่าวมาแล้ว ก็ยังมีแนวทางการตกแต่งโรงแรม รีสอร์ท แบบอื่นๆ อีกหลากหลายมากมาย ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะมีไอเดียอะไร และแล้วแต่คุณจะนำมาประยุกต์อย่างไร บางโรงแรมอาจตกแต่งเป็นแนวศิลปะ อาร์ตๆ หรือ สรีทอาร์ต แนวผจญภัย เป็นบ้านต้นไม้ กางเต๊นท์ แนวธรรมชาติ แนวชนบท หรือสไตล์โบราณสไตล์ต่างประเทศ ฯลฯ ก็ได้
การลงทุนและใส่ใจในการออกแบบตกแต่งโรงแรมของคุณเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เพราะจะสร้างความแตกต่าง ความประทับใจ และภาพจำที่ดีสำหรับแขกที่มาพักได้
เมื่อโรงแรมหรือรีสอร์ทของคุณเป็นที่ชื่นชอบของแขกที่มาเข้าพักและเป็นที่สนอกสนใจ เป็นที่ต้องการของลูกค้าที่กำลังจะมาเที่ยวหรือมาทำธุระ ทีนี่คุณก็รอนับเงินได้เลย หากคุณไม่ได้อยู่เฝ้าและดูแลโรงแรมของคุณด้วยตนเอง ก็อย่าลืมติดตั้ง H-Box เพื่อที่จะได้สามารถมอนิเตอร์การเปิดห้องพักและจำนวนแขกที่มาเข้าพักโรงแรมหรือรีสอร์ทของคุณได้จากทุกที่ทุกเวลาด้วยนะคะ ติดตามข่าวสาร เนื้อหาความรู้ดีๆ เกี่ยวกับ โรงแรม รีสอร์ท รวมถึงโปรแกรมรีสอร์ท ได้ที่ https://www.facebook.com/unsleepbox